เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 สำนักงาน ก.พ.ร. จัดประชุมติดตามความพร้อมของหน่วยงานในการดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกาการกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตแทนการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาต พ.ศ. 2564 โดยมีรองเลขาธิการ ก.พ.ร. (นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข) เป็นประธานการประชุม และผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (นายจุมพล นิติธรางกูร) ร่วมให้คำปรึกษาแนะนำ ซึ่งมีนายทวี เสริมภักดีกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมติดตามกว่า 80 คน ผลการประชุมสรุปได้ดังนี้
1. รองเลขาธิการ ก.พ.ร. (นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข) และผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เน้นย้ำที่ประชุมถึงเจตนารมณ์ของ พ.ร.ฎ. ฉบับนี้ ว่าเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนในการดำเนินการต่ออายุใบอนุญาต โดยให้สามารถชำระค่าธรรมเนียมแทนการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตได้ เมื่อประชาชนชำระค่าธรรมเนียมแล้วก็สามารถดำเนินการประกอบกิจการได้อย่างต่อเนื่องทันที ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิรูประบบราชการ โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง
2. ทุกหน่วยงานมีความพร้อมที่จะให้บริการประชาชนตาม พ.ร.ฎ. ฉบับนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป โดยได้มีการเตรียมช่องทางการรับชำระค่าธรรมเนียมรองรับไว้แล้ว รวมถึงหน่วยงานได้มีการเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แนวทางการตรวจสอบกิจการ และการสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ผู้รับบริการทราบ เช่น กรมการค้าต่างประเทศ กรมการปกครอง กรมธุรกิจพลังงาน กรมประมง และ มกอช.
3. ทุกหน่วยงานมีความพร้อมที่จะพัฒนาช่องทางการชำระเงินเพิ่มเติมอย่างน้อย 1 ช่องทาง นอกจาก ณ สถานที่ทำการของผู้อนุญาต ให้แล้วเสร็จภายใน 360 วัน นับตั้งแต่ พ.ร.ฎ. มีผลใช้บังคับ (22 พ.ย. 64) ซึ่ง ณ ปัจจุบัน หน่วยงานส่วนใหญ่ได้มีการพัฒนาช่องทางเพิ่มเติมเรียบร้อยแล้ว เช่น กรมประมงได้เพิ่มช่องทางการชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์สาขาธนาคารกรุงไทย ตู้ ATM และระบบ Mobile banking มกอช. ได้เพิ่มช่องทางการชำระเงินผ่านธนาคาร ระบบออนไลน์ และเคาน์เตอร์เซอร์วิส เป็นต้น รวมถึงกรมการค้าต่างประเทศ กรมประมง และกรมปศุสัตว์ มีแผนจะดำเนินการพัฒนาการให้บริการดังกล่าวในรูปแบบ fully digital ภายในปี 2565
4. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจที่มีการถ่ายโอนไปยังราชการส่วนท้องถิ่น ได้แก่ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมการปกครอง กรมธุรกิจพลังงาน และกรมอนามัย ได้ดำเนินการจัดทำแนวทางและสื่อสารการปฏิบัติไปยังราชการส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ราชการส่วนท้องถิ่นเตรียมความพร้อมรองรับการดำเนินการตาม พ.ร.ฎ. ฉบับดังกล่าวแล้ว
5. กรุงเทพมหานครได้มีการเตรียมช่องทางชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมนอกจากการรับชำระด้วยเงินสด ณ หน่วยงาน คือการชำระด้วย QR Code จากเครื่อง EDC รวมถึงสำนักอนามัยได้มีการเตรียมการร่วมกับสำนักงานเขตทุกสำนักงานเขตในการดำเนินการตาม พ.ร.ฎ. ฉบับดังกล่าวแล้ว
การดำเนินการต่อไป สำนักงาน ก.พ.ร. จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนการติดตามผลการดำเนินการหลังจากกฎหมายมีผลใช้บังคับ เพื่อทราบถึงจำนวนผู้ขอรับบริการที่ได้เลือกช่องทางการต่ออายุใบอนุญาตตาม พ.ร.ฎ. ฉบับนี้ และความพึงพอใจของผู้รับบริการ รวมถึงปัญหาและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงและการขยายผลไปยังใบอนุญาตอื่นในอนาคต
