วิสัยทัศน์
พันธกิจ
มีหน้าที่หลักในการสนับสนุนการทำงานของ ก.พ.ร. เกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการและงานของรัฐอย่างอื่น เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ มาตรา 3/1 แห่งกฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งนี้ ภารกิจหลักของสำนักงาน ก.พ.ร. มีขอบเขตครอบคลุมในเรื่องเกี่ยวกับ
1. งานเลขานุการของคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) คณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน (กพม.) คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ (ค.ต.ป.)
2. ภารกิจด้านนโยบายการพัฒนาระบบราชการ
2.1 ศึกษา วิเคราะห์ทิศทางหรือแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลกและการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยในอนาคต รวมทั้งผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงต่อการพัฒนาระบบราชการ
2.2 ศึกษาบทบาทภาครัฐไทยในอนาคต แนวทางและวิธีการในการปรับบทบาทเดิมไปสู่บทบาทใหม่ในอนาคต
2.3 จัดทำระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการในรูปแบบดิจิทัลเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์ คาดการณ์ เสนอแนะนโยบาย และเปิดเผยต่อสาธารณะ
2.4 สร้างการรับรู้ เข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการ สร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคเอกชน และหน่วยงานต่างประเทศ เพื่อให้ได้ข้อเสนอแนะในการพัฒนาภาครัฐ
3. ภารกิจด้านการให้บริการประชาชน
3.1 พัฒนา ส่งเสริมการยกระดับการให้บริการภาครัฐตามพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558
3.2 ขับเคลื่อนการให้บริการภาคธุรกิจและภาคประชาชนด้วยระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
3.3 สนับสนุนการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัลในการเพิ่มขีดความสามารถเชิงดิจิทัลภาครัฐ ในการบริหารจัดการด้านบูรณาการข้อมูลภาครัฐ
3.4 ส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนากลไกการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการบริการภาครัฐ เปิดให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการแสดงความเห็น ออกแบบ และเสนอแนวทางในการพัฒนาบริการภาครัฐ
3.5 ทบทวน ยกเลิก ปรับปรุง กฎหมาย กฎระเบียบ แนวทางปฏิบัติที่เป็นอุปสรรคต่อการอำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชน และการเป็นรัฐบาลดิจิทัล
4. ภารกิจปรับบทบาท ภารกิจและโครงสร้างหน่วยงานภาครัฐ
4.1 การพัฒนาการจัดแบ่งบทบาทและอำนาจหน้าที่ที่เหมาะสมระหว่างบริหารราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น
4.2 บูรณาการบทบาทภารกิจ โครงสร้าง และเชื่อมโยงการทำงานของภาครัฐในทุกระดับ ทุกภาคส่วนให้มีเอกภาพและสอดรับประสานกันตามห่วงโซ่การพัฒนา โดยส่งเสริมให้ภาคเอกชน ภาคส่วนอื่น มีบทบาทในการดำเนินงานของภาครัฐเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งส่งเสริมให้มีการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น
4.3 การจัดโครงสร้างส่วนราชการ และจังหวัดให้ดำเนินการเฉพาะภารกิจที่สำคัญจำเป็น มีความคล่องตัว ยืดหยุ่น ทันสมัย ปรับตัวได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
4.4 มอบอำนาจการแบ่งส่วนราชการภายในกรมและประเมินประสิทธิภาพประสิทธิผล และความคุ้มค่าภายหลังการปรับปรุงโครงสร้างของส่วนราชการ
4.5 เสนอแนะนโยบาย แนวทาง หลักเกณฑ์กลาง และดำเนินการเกี่ยวกับการจัดตั้ง การรวม การยุบเลิก และการประเมินความคุ้มค่าขององค์การมหาชนและหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ
5. ภารกิจเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ
5.1 พัฒนาส่วนราชการ จังหวัด และองค์การมหาชน ให้มีขีดสมรรถนะสูง (High Performance Organization) มุ่งสู่การเป็นระบบราชการ 4.0 และบริหารจัดการภาครัฐตามหลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
5.2 การประเมินผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ จังหวัด และองค์การมหาชน โดยปรับระบบการประเมินผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติราชการเพื่อการพัฒนาหน่วยงาน (enable) ควบคู่กับการประเมินผลการปฏิบัติงาน (performance)
5.3 มอบอำนาจการประเมินผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติราชการของส่วนราชการจังหวัด และองค์การมหาชน
5.4 สร้างความเข้มแข็งของจังหวัดให้เป็นจังหวัดที่มีผลสัมฤทธิ์สูง ให้มีความคล่องตัวในการบริหารระบบงาน ระบบเงิน และระบบกำลังคน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5.5 ส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายรัฐ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลของภาครัฐ และการบริหารราชการ
ประเด็นยุทธศาสตร์/เป้าประสงค์
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนานวัตกรรมการให้บริการการประชาชนโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง
เป้าประสงค์ : ส่งเสริมและพัฒนาระบบการให้บริการประชาชนของหน่วยงานภาครัฐไทยให้มีความเป็นเลิศ ยกระดับประสิทธิภาพงานบริการ พัฒนานวัตกรรม ให้เข้าถึงง่าย สะดวก มีค่าใช้จ่ายน้อยและมีหลากหลายรูปแบบ สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน
กลยุทธ์ที่ 1.1 พัฒนาการบริการภาครัฐให้สะดวก รวดเร็ว ค่าใช้จ่ายน้อย และตอบโจทย์ชีวิตประชาชน
กลยุทธ์ที่ 1.2 เพิ่มขีดความสามารถในการจัดเก็บและเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศเพื่อการให้บริการประชาชนกลยุทธ์ที่ 1.3 ส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐ
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาโครงสร้างและระบบบริหารจัดการภาครัฐ ให้มีขนาดเหมาะสม คล่องตัว และมีขีดสมรรถนะสูง โดยใช้ดิจิทัลเทคโนโลยี
เป้าประสงค์ : ปรับปรุงบทบาท ภารกิจและโครงสร้างของหน่วยงานภาครัฐ ให้สอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์ของประเทศ โดยดำเนินการเฉพาะภารกิจที่สำคัญ จำเป็น และคุ้มค่ามีโครงสร้างที่เหมาะสม ยืดหยุ่น คล่องตัว ตลอดจนพัฒนาระบบการบริหารจัดการของหน่วยงานภาครัฐให้มีขีดสมรรถนะสูง โดยใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการปฏิบัติงาน
กลยุทธ์ที่ 2.1 ปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างของภาครัฐให้มีขนาดกะทัดรัดเหมาะสมกับภารกิจ มีความยืดหยุ่น ปรับตัวได้เร็วพร้อมรับความเปลี่ยนแปลง
กลยุทธ์ที่ 2.2 พัฒนารูปแบบ แนวทางการดำเนินงาน และบทบาทของหน่วยงานภาครัฐเพื่อให้เป็นระบบบริหารราชการรูปแบบใหม่ มองไปข้างหน้า เป็นระบบงานที่มีผลสัมฤทธิ์สูง
กลยุทธ์ที่ 2.3 พัฒนารูปแบบการดำเนินการและการบริหารงานของภาครัฐให้มีลักษณะการทำงานเชิงรุก และมองไปข้างหน้า โดยทำงานอย่างเตรียมการไว้ล่วงหน้าและมีการวิเคราะห์ความเสี่ยง
กลยุทธ์ที่ 2.4 ส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการบริหารจัดการองค์กรของหน่วยงานภาครัฐ
กลยุทธ์ที่ 2.5 พัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการบริหารจัดการภาครัฐเต็มรูปแบบ
กลยุทธ์ที่ 2.6 สรรหาและพัฒนาคนรุ่นใหม่ที่มีขีดสมรรถนะสูงเข้าสู่ระบบราชการเพื่อเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง
กลยุทธ์ที่ 2.7 ทบทวนและปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับระเบียบบริหารราชการแผ่นดินให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
กลยุทธ์ที่ 2.8 เสริมสร้างและพัฒนาขีดสมรรถนะเครือข่ายการพัฒนาระบบราชการ
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาระบบราชการให้เปิดกว้างเชื่อมโยงบูรณาการและมีส่วนร่วมกับประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน
เป้าประสงค์ : พัฒนาระบบบริหารงานแบบบูรณาการระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น แบบยึดพื้นที่อย่างเป็นองค์รวมกับทุกภาคส่วน โดยใช้กลไกประชารัฐ ออกแบบโครงสร้างและระบบบริหารงานที่รองรับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ พร้อมทั้งต้องมีการเปิดเผยโปร่งใสในการทำงาน โดยบุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของทางราชการหรือมีการแบ่งปันข้อมูลซึ่งกันและกัน และสามารถเข้ามาตรวจสอบการทำงานของรัฐได้
กลยุทธ์ที่ 3.1 วางระบบการวางแผนและกำหนดนโยบายหรือมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐให้ประชาชน ภาคเอกชน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมในการบริหารราชการแผ่นดินแบบประชารัฐที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง
กลยุทธ์ที่ 3.2 ส่งเสริมการถ่ายโอนภารกิจที่ภาครัฐไม่ควรดำเนินการเองออกไปให้แก่ภาคส่วนอื่น ๆ เป็นผู้ดำเนินการแทน
กลยุทธ์ที่ 3.3 วางระบบการบริหารราชการแบบบูรณาการและทำงานเชิงรุก
กลยุทธ์ที่ 3.4 วางระบบการทำงานที่เปิดเผยโปร่งใสในการทำงาน โดยบุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของทางราชการหรือแบ่งปันข้อมูลซึ่งกันและกันได้
กลยุทธ์ที่ 3.5 ส่งเสริมการบูรณาการข้อมูลผ่านระบบเชื่อมโยงข้อมูลกลางระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ให้มีมาตรฐานและปลอดภัย
กลยุทธ์ที่ 3.6 เพิ่มประสิทธิภาพและเชื่อมโยงการทำงานภายในภาครัฐด้วยกันเองให้มีเอกภาพและสอดรับประสานกัน ทั้งการบริหารราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น
กลยุทธ์ที่ 3.7 พัฒนาระบบประเมินผลงานภาครัฐ โดยประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียตัวจริง
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 4 การส่งเสริมธรรมาภิบาลในภาครัฐ
เป้าประสงค์ : ส่งเสริมสนับสนุนในการเสริมสร้างความซื่อสัตย์สุจริตในระบบราชการปรับปรุงกระบวนการทำงานของภาครัฐให้โปร่งใส ลดการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความเชื่อมั่นให้แก่ระบบราชการไทย
กลยุทธ์ที่ 4.1 สร้างระบบธรรมาภิบาลที่ยั่งยืนในหน่วยงานภาครัฐ
กลยุทธ์ที่ 4.2 สร้างความตระหนักรู้และปลุกจิตสำนึกเกี่ยวกับการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบเพื่อสร้างความโปร่งใสในการบริหารงานภาครัฐ
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 5 การพัฒนาสำนักงาน ก.พ.ร. ให้เป็นองค์กรสมรรถนะสูง ยืดหยุ่นคล่องตัว และเป็นองค์กรดิจิทัลเต็มรูปแบบ
เป้าประสงค์ : พัฒนารูปแบบและกระบวนการทำงาน วางโครงสร้างพื้นฐานการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการปฏิบัติราชการภายในสำนักงาน ก.พ.ร. และพัฒนาบุคลากรให้มีสมรรถนะที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคดิจิทัลดิสรัปชัน และสามารถให้คำปรึกษาแก่ส่วนราชการอื่นเพื่อการพัฒนาระบบราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กลยุทธ์ที่ 5.1 ทบทวนและปรับปรุงระบบและกระบวนงานภายในสำนักงาน ก.พ.ร.ให้สอดคล้องกับภารกิจ เทคโนโลยี และมีประสิทธิภาพ
กลยุทธ์ที่ 5.2 พัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการปฏิบัติงานของสำนักงาน ก.พ.ร.ให้ทันสมัย รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ปฏิบัติงาน
กลยุทธ์ที่ 5.3 พัฒนาระบบการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศเพื่อการปฏิบัติงานและการบริหารงานโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่เหมาะสม ปลอดภัย
กลยุทธ์ที่ 5.4 พัฒนาระบบการบริหารจัดการองค์กรและรูปแบบการปฏิบัติงาน ให้มีความคล่องตัว รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์
กลยุทธ์ที่ 5.5 พัฒนาระบบการบริหารจัดการและการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของสำนักงาน ก.พ.ร. ให้สอดคล้องกับกระบวนงาน เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สำนักงาน ก.พ.ร.