ข่าวสาร ก.พ.ร.

การหารือแนวทางการพัฒนาและประกาศแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง

22 มี.ค. 2566
0
การหารือแนวทางการพัฒนาและประกาศแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566 สำนักงาน ก.พ.ร. ได้จัดประชุมหารือแนวทางการพัฒนาและประกาศแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง ร่วมกับกรมศุลกากร และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) เพื่อพิจารณาการประกาศระบบ National Single Window (NSW) เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง และแนวทางนโยบายการผลักดันหน่วยงานรัฐเพื่อใช้แพลตฟอร์มกลาง โดยมีรองเลขาธิการ ก.พ.ร. (นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข) เป็นประธานการประชุม ร่วมด้วย ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (ดร.อาศิส อัญญะโพธิ์) และผู้แทนจากกรมศุลกากร โดยมีรายละเอียดการประชุม สรุปได้ดังนี้

1. พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์ให้ภาครัฐจัดทำระบบ/แพลตฟอร์มที่เป็นส่วนกลาง เพื่อให้ง่ายในการเข้าใจและเชื่อมโยงการดำเนินงานระหว่างกัน รวมทั้งสร้างมาตรฐานการบริการที่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ ในปัจจุบัน สพร. ได้ผลักดันและประกาศให้ Biz Portal และ Citizen Portal เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง รวมถึง GDX และ data.go.th ที่ได้ประกาศไปก่อนหน้า ซึ่งการดำเนินการล่าสุด สำนักงาน ก.พ.ร. อยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่องวิธีการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ ในประเด็นที่ว่า “หน่วยงานภาครัฐใดที่จะมีการพัฒนาระบบการให้บริการประชาชนในอนาคต ถ้าเป็นการพัฒนาขึ้นใหม่ขอให้มาใช้ระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์พื้นฐาน (Common Services) จากแพลตฟอร์มกลาง Biz Portal หรือ Citizen Portal แต่หากหน่วยงานใดมีการพัฒนาไว้อยู่เดิมต้องคำนึงถึงการต่อยอด เพื่อพัฒนาการเชื่อมโยงระบบกับ Biz Portal หรือ Citizen Portal เพื่อช่วยลดภาระหน่วยงานภาครัฐและประหยัดงบประมาณ” จากเหตุผลข้างต้น นำไปสู่การที่กรมศุลกากรขอเสนอให้พิจารณาประกาศระบบ National Single Window (NSW) เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง รวมถึงขอหารือแนวทางและหลักเกณฑ์ในการพิจารณา

2. แพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง เกิดจากพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 ระบุไว้ในมาตรา 6 ว่า “การบริการประชาชนและการติดต่อประสานงานระหว่างส่วนราชการด้วยกัน ต้องกระทำโดยใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลกลางที่สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) กำหนดด้วย” ซึ่งหมายความว่า ถ้า สพร. เห็นว่าหน่วยงานมีแพลตฟอร์มที่ดีอยู่แล้วสามารถกำหนดเพิ่มเติมได้ ในการดำเนินการที่ผ่านมามีการประกาศแพลตฟอร์มกลางแล้ว แต่ส่วนใหญ่เป็นแพลตฟอร์มที่ทาง สพร. พัฒนาและให้บริการอยู่

3. ลักษณะของแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง ได้แก่ 1) เป็นแพลตฟอร์ม/ระบบที่หลายหน่วยงานรัฐหรือเอกชนมาร่วมกันใช้งาน 2) มีความสอดคล้องกับแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัล และ 3) ไม่ซ้ำซ้อนกับแพลตฟอร์มอื่น และ สามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับแพลตฟอร์มอื่นได้ ซึ่งแพลตฟอร์มดิจิทัลกลางสามารถแบ่งได้ 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 การบริหารงานภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล กลุ่มที่ 2 การให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล และกลุ่มที่ 3 แพลตฟอร์ม/ระบบ/โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล/เครื่องมือกลางสำหรับใช้ในกระบวนการสำคัญ (Microservices) ที่ใช้ร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ประโยชน์ของแพลตฟอร์มดิจิทัลกลางที่ส่งผลต่อประชาชน คือประชาชนสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐได้ง่ายและชัดเจนมากขึ้น ใช้งานผ่านระบบที่ออกแบบ UX/UI ที่มีแนวทางเดียวกัน ประโยชน์ที่ส่งผลต่อภาครัฐ คือขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า และหน่วยงานสามารถนำไปใช้หรือพัฒนาต่อยอดเป็นบริการภาครัฐได้โดยง่าย ซึ่งขั้นตอนในการขึ้นทะเบียนแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง หน่วยงานต้องดำเนินการรวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอต่อคณะอนุกรรมการสถาปัตยกรรมเป็นผู้พิจารณา จากนั้นเสนอเข้าคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลพิจารณา และ สพร. ออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลกลางต่อไป

4. ประเด็นหารือจากกรมศุลกากร มีดังนี้

  • แนวทางการผลักดันหน่วยงานภาครัฐให้ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง ในปัจจุบันทางกรมศุลกากรขับเคลื่อนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า-ส่งออกให้ใช้ผ่านระบบ NSW หรือผ่านแพลตฟอร์มกลางภาครัฐ แต่บางหน่วยงานมีการพัฒนา Portal เอง อาจเกิดปัญหาด้านการควบคุมมาตราฐานของข้อมูล การใช้ข้อมูลในวิธีการที่แตกต่างกัน ซึ่งจะเป็นภาระแก่ผู้ประกอบการ ซึ่งในที่ประชุมได้ให้ข้อเสนอแนะแนวทางการดำเนินการตามมาตรา 10 โดยมีหลักการคือ เมื่อ สพร. ประกาศแพลตฟอร์มกลางแล้ว จะมีการเชิญชวนให้หัวหน้าส่วนราชการมาใช้แพลตฟอร์มกลางให้แล้วเสร็จภายในสองปี ในส่วนนี้ทางสำนักงาน ก.พ.ร. ออกหนังสือเวียนแจ้งส่วนราชการต่าง ๆ ให้รับทราบและปฏิบัติ
  • แนวทางการเตรียมข้อมูลเพื่อเสนอระบบ NSW เข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการสถาปัตยกรรมและคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เพื่อพิจารณาประกาศเป็นแพลตฟอร์มกลาง ในการนี้ สพร. ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมและแนวทางการปฏิบัติเพื่อเข้าสู่การพิจารณา โดยในที่ประชุมได้ให้ข้อคิดเห็นเพิ่มเติมว่าควรระบุรายละเอียดในแผนการปรับปรุงแพลตฟอร์มในระยะ 1-3 ปี ให้ชัดเจน
  • แนวทางเรื่องงบประมาณ เนื่องจากระบบ NSW ปลี่ยนรูปแบบมาเป็น NSW Operator ซึ่งได้บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เป็นผู้ดำเนินการและมีการเก็บค่าบริการ เพื่อนำมาพัฒนาดูแลระบบและขยายบริการต่อไป ซึ่งทางกรมศุลกากรพบว่าหน่วยงานภาครัฐยังคงได้จัดทำ Portal เอง โดยให้เหตุผลเรื่องค่าบริการที่ภาครัฐไม่ควรเรียกเก็บ ที่นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมจากภาคเอกชน ซึ่งในที่ประชุมได้ให้ข้อเสนอเกี่ยวกับค่าบริการและรูปแบบของการดำเนินการ เนื่องจากระบบ NSW มีลักษณะที่แตกต่างจากแพลตฟอร์มกลางอื่น ๆ (มีการเก็บค่าบริการ) ในส่วนนี้ควรจะมีการหารือเพิ่มเติมว่าเข้าเกณฑ์การเป็นแพลติฟอร์มกลางหรือไม่ และนอกจากนี้ควรชี้แจงเพิ่มเติมถึงประเด็นความสมเหตุสมผลของค่าบริการ โดยระบุรายละเอียดในการจัดทำแผนการปรับปรุงแพลตฟอร์มในระยะ 1-3 ปี ซึ่งจะนำไปสู่เงื่อนไขเพื่อนำไปของบประมาณ

ทั้งนี้ ตามแผนฯ ของ สพร. ระบบ National Single Window (NSW) จัดเป็นอีกหนึ่งระบบที่จะเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลกลางได้ ซึ่งทางกรมศุลกากรจะจัดทำข้อมูลตามแบบฟอร์มและแนวทางที่ได้จาก สพร. และนำกลับมาหารือร่วมกันในโอกาสต่อไป รวมถึงประเด็นการของบประมาณเพื่อให้ตอบโจทย์แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ซึ่งทางสำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ต้องนำไปหารือกับสำนักงบประมาณต่อไป

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้กกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สำนักงาน ก.พ.ร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ ก.พ.ร. ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ ก.พ.ร. ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ ก.พ.ร. ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ ก.พ.ร. ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า