ข่าวสาร ก.พ.ร.

รัฐยุคใหม่ สานพลังสื่อต้านทุจริต

1 ส.ค. 2565
0

เมื่อวันพุธที่ 27 กรกฎาคม 2565 สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ดำเนินกิจกรรมประชุมสัมมนาออนไลน์ “รัฐยุคใหม่ สานพลังสื่อต้านทุจริต” ซึ่งเป็นการเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ และสื่อมวลชน ได้แก่

1. คุณภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
2. คุณศนิ จิวจินดา ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
3. ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม นักวิจัยอาวุโส ห้องปฏิบัติการวิจัยระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะ NECTEC
4. คุณปฐมพร ทรัพย์ไพฑูรย์ ผู้สื่อข่าวและพิธีกร

5. คุณภิญโญยศ ม่วงสมมุข เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการ สำนักงาน ป.ป.ช.

ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้

* บทบาทของสื่อมวลชนในการสร้างการรับรู้ ความตระหนัก และร่วมป้องกันการทุจริตในสังคมไทย

– สื่อมีบทบาทสำคัญในการสร้างการรับรู้และการเปิดเผยการทุจริตให้ประชาชนรับทราบ เปรียบเสมือนเป็นหน่วยเฝ้าระวังและส่งสัญญาณเตือน (Watch Dog)
– ข้อจำกัดทางกฎหมาย ทำให้สื่อไม่ได้รับการปกป้องคุ้มครองอย่างเพียงพอ ทั้งในการเข้าถึงข้อมูลและการนำเสนอข่าวทุจริต และความท้าทายอีกประการ คือ การสื่อสารปัญหาทุจริตอย่างตรงไปตรงมา
– สื่อควรทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตของภาครัฐขนาดเล็กด้วย เช่น การรับกระเช้าของขวัญ การได้รับสิทธิพิเศษที่มุ่งหวังผลตอบแทนภายหลัง รวมถึงตรวจสอบความโปร่งใสในการทำงาน แล้วเผยแพร่ให้ประชาชนรับทราบ
– การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ จะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนในสังคมไทยตระหนักรู้เรื่องการทุจริตมากขึ้น

* การมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาของชาวกรุงเทพฯ ผ่านเครื่องมือ Traffy Fondue

– ระบบ Traffy Fondue ทำให้เกิดความเท่าเทียมในการเข้าถึงการบริการ เจ้าหน้าที่มีความรวดเร็วในการรับเรื่องและแก้ปัญหา ทำให้เกิดความโปร่งใส และตรวจสอบได้
– กทม. เปิดให้ประชาชนแจ้งเบาะแสการทุจริตได้ โดยเก็บข้อมูลเบาะแส และข้อมูลของผู้แจ้งเป็นความลับ (Confidential)
– ประชาชนแจ้งปัญหาและทราบสถานการณ์แก้ปัญหาได้หลากหลายช่องทาง ทั้งแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ และไลน์แชทบอท
– การแก้ไขปัญหาเชิงรุกของเจ้าหน้าที่อย่างรวดเร็ว ทำให้ Traffy Fondue ได้รับกระแสที่ดีจากประชาชน และผู้แจ้งเกิดกำลังใจในการเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหา

* สถานการณ์และกลไกการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของภาครัฐ

– สำนักงาน ป.ป.ช. ใช้เครื่องมือวัดประเมินการทุจริตจากหลายแหล่ง เช่น Transparency International, World Governance Indicators, The World Bank, Bangkok Poll, NIDA Poll เป็นต้น และมีการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) โดยสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นประจำทุกปี
– การทุจริตในภาครัฐมีหลากหลายรูปแบบ เช่น การทุจริตการจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารงบประมาณ การปฏิบัติ/ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ การเรียกรับสินบน เป็นต้น
– ในปี 2564 การร้องเรียนเรื่องทุจริตผ่านหนังสือร้องเรียนมีมากที่สุด จากช่องทางการรับเรื่อง ได้แก่ หนังสือร้องเรียน หนังสือราชการ บัตรสนเท่ห์ เว็บไซต์ ร้องเรียนด้วยวาจา แจ้งเบาะแส
– สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินโครงการปักหมุดพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริตที่ให้เครือข่ายภาคประชาชนในระดับพื้นที่ เข้ามาตรวจสอบ เฝ้าระวัง แจ้งเบาะแสของหน่วยงานภาครัฐที่กระทำการอันเสี่ยงต่อการทุจริต พร้อมทั้งผลักดันให้หน่วยงานต่าง ๆ จัดทำขั้นตอนการรายงานและช่องทางการร้องเรียนการทุจริต

* มุมมองในการป้องกันการทุจริตของภาครัฐ

– สื่อมวลชน :
– การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมให้ภาครัฐและประชาชนเกิดความร่วมมือกัน
– สื่อมวลชนควรเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา ถึงแม้ว่าจะมีข้อจำกัดทางการเงินที่รับสปอนเซอร์ทำให้ไม่กล้าเสนอข่าวที่มีผลกระทบ
– การใช้เทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยของข้อมูล จะทำให้ประชาชนกล้าที่จะแจ้งเบาะแสการทุจริตมากขึ้น

– สำนักงาน ป.ป.ช. :

– การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันการทุจริตเป็นสิ่งสำคัญ
– การผลักดันให้ผู้บริหารไม่รับของขวัญเพื่อผลประโยชน์
– เจ้าหน้าที่ของรัฐควรขับเคลื่อนงานตามมาตรฐานทางจริยธรรม

– กทม. :
– การตื่นตัวของเจ้าหน้าที่ในการรับเรื่องร้องเรียนและการปฏิบัติจริง

– การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลของผู้ร้องเรียนและผู้ถูกร้องเรียน

ปิดท้ายด้วยการร่วมกันระดมความคิดเห็น “รัฐยุคใหม่ สานพลังสื่อต้านทุจริต” เพื่อสร้างสังคมแห่งความซื่อตรงและการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน โดยได้รับความร่วมมือจากสื่อมวลชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมผ่านโปรมแกรม Zoom จำนวน 110 คน และรับชมทาง Facebook Live ของสำนักงาน ก.พ.ร. 359 ครั้ง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้กกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สำนักงาน ก.พ.ร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ ก.พ.ร. ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ ก.พ.ร. ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ ก.พ.ร. ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ ก.พ.ร. ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า