เมื่อวันศุกร์ที่ 25 มีนาคม 2565 เวลา 9.00 น. สำนักงาน ก.พ.ร. นำโดยศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ (ประธาน อ.ก.พ.ร.) นายกิตติ ตั้งจิตรมณีศักดา (อนุกรรมการฯ ที่ปรึกษา) และ นางพรทิพย์ แก้วมูลคำ (ผอ.กองพัฒนาระบบราชการ 2) ร่วมหารือแนวทางขับเคลื่อนการนำร่องการถ่ายโอนงานภาครัฐให้ภาคเอกชนร่วมดำเนินงานหรือดำเนินงานแทนในงานขออนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (ตามมติ ก.พ.ร. ในการประชุมครั้งที่ 6/2564 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน 2564) กับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ซึ่งนำโดยนายธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และคณะผู้บริหารกรมฯ สรุปดังนี้
1) กรมฯ มีการเพิ่มประสิทธิภาพงานขออนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพอยู่แล้ว ทั้งในเรื่องของการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับสมาคมนวดสปาหรือภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นเครือข่ายในการสร้างความรู้เรื่องเกณฑ์/มาตรฐานสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 กรมฯ จะจัดทำหลักสูตรอบรมให้ความรู้กับภาคเอกชนหรือสมาคมที่เป็นเครือข่าย และจะเชื่อมระบบการขออนุญาตกับระบบ Biz Portal ในรูปแบบ machine to machine อีกจำนวน 8 รายการ
2) การจัดทำฐานข้อมูล Big Data ด้าน Wellness ปัจจุบันกรมฯ ได้จัดเก็บข้อมูล 2 ลักษณะ คือ (1) ข้อมูล primary data เช่น โรงพยาบาล และสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (2) ข้อมูล secondary data เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย และในอนาคตจะจัดเก็บข้อมูลทั้งจากสถานประกอบการ โรงพยาบาล และคลินิกกลุ่มเป้าหมายที่มีผู้ป่วยชาวต่างชาติ หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพ เชื่อมฐานข้อมูลกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ เพื่อรองรับนโยบาย Medical Hub และอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร ทั้งนี้ ควรได้ข้อมูลด้าน wellness ที่ครอบคลุมและสะท้อนความต้องการของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวด้วย
3) ในการผลักดันการปรับปรุง พ.ร.บ. สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 กรมฯ จะนำประเด็นการถ่ายโอนงานให้ภาคเอกชนในงานอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพไปประกอบการยกร่างการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายฉบับดังกล่าว โดยคาดว่าจะเสนอต่อคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพพิจารณาภายในเดือนมิถุนายน 2565
นอกจากนี้ ในการหารือครั้งนี้ มีประเด็นการขับเคลื่อน Super License นำโดยรองเลขาธิการ ก.พ.ร. (นางอารีพันธ์ เจริญสุข) ซึ่งกรมฯ รับประเด็นในการพัฒนาบริการในรูปแบบ Super License ดังกล่าว ที่คาดว่าจะนำร่องในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษอันดามันก่อน