เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2565 สำนักงาน ก.พ.ร. ได้จัดการประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการพัฒนาทางดิจิทัลตามงานบริการ Agenda สำคัญ ครั้งที่ 2/2565 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีนางอารีย์พันธ์ เจริญสุข เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยนายสมคิด จิรานันตรัตน์ ที่ปรึกษาคณะทำงานฯ นางสาววิริยา เนตรน้อย ที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ และผู้ทรงคุณวุฒิที่ร่วมเป็นคณะทำงาน ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบและพิจารณาการดำเนินการตามวาระต่าง ๆ ดังนี้
1. พิจารณาแนวทางการนำเทคโนโลยีบล็อกเซน (Blockchain) มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัท เนชั่นแนลดิจิทัล ไอดี จำกัด โดย ดร.ฉกรรจ์ พราหมณ์แก้ว Blockchain Architect ที่ได้นำเสนอหลักการและแนวคิดการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ ทำให้มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ยาก และไม่ต้องอาศัยคนกลางหรือบุคคลที่สามมาช่วยทำหน้าที่เป็นคนกลางในการตรวจสอบความน่าเชื่อถือเมื่อมีการทำธุรกรรม ซึ่งจะช่วยให้สามารถทำธุรกรรมออนไลน์ได้สะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ได้นำเสนอตัวอย่างการนำ Blockchain มาใช้ในองค์กรต่าง ๆ ทั้งในด้านพลังงาน ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการแพทย์ พร้อมทั้งนำเสนอ NDID Platform ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการสนับสนุนการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง NDID Platform ได้นำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ ด้วยการเข้ารหัสในการรับส่งข้อมูล โดยระบบไม่มีการรวมศูนย์ในการเก็บข้อมูล แต่จัดเก็บเพียง Timestamp คือ ข้อมูลวัน เวลา ผู้รับ ผู้ส่งข้อมูลเท่านั้น โดยจะไม่เห็นและไม่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ของผู้ใช้บริการ ข้อมูลยังคงอยู่กับหน่วยงานที่ดูแลข้อมูลและหน่วยงานให้บริการ ทำให้มีความปลอดภัยสูง ทั้งนี้ ที่ประชุมมีความเห็นเกี่ยวกับการนำ Blockchain มาใช้กับการให้บริการภาครัฐ ดังนี้
1.1 เทคโนโลยี Blockchain อาจไม่สามารถตอบโจทย์งานบริการได้ทุกงานบริการ ซึ่งจะต้องพิจารณาความเหมาะสมในการจัดเก็บและส่งต่อข้อมูล และความคุ้มค่าในการลงทุน รวมทั้งการพัฒนาระบบที่ต้องอาศัยการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน นอกจากนี้จะต้องจัดทำองค์ความรู้เกี่ยวกับ Blockchain และแนวทางการนำมาใช้กับหน่วยงานภาครัฐ เช่น ข้อดีข้อเสีย เงื่อนไขการใช้งาน ข้อควรระวัง กรณีศึกษา ความเหมาะสมกับการใช้งานของหน่วยงานภาครัฐแต่ละประเภท
1.2 งานบริการที่นำ Blockchain มาใช้ในระยะแรกได้อาจเป็นงานบริการในรูปแบบของ Digital Paper ซึ่งหมายถึงจะปรับการออกเอกสารในรูปแบบกระดาษเป็นรูปแบบดิจิทัล และใช้ Blockchain รับรองได้ ซึ่งหน่วยงานปลายทางสามารถเข้าถึงเอกสาร/ข้อมูลสำหรับนำไปใช้ในการพิจารณาอนุมัติ อนุญาตได้ นอกจากนี้อาจขยายผลการนำไปใช้พัฒนากับงานบริการหรือการปฏิบัติงานที่มีความสำคัญ เช่น ระบบการเบิกจ่ายงบประมาณ ที่สามารถตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณได้ว่าหน่วยงานได้เบิกจ่ายงบประมาณในเรื่องใด หรือชำระให้กับผู้รับจ้างใดบ้าง รวมทั้งการลงคะแนนเสียงหรือประชามติออนไลน์ผ่านระบบดิจิทัล ที่ขั้นตอนแรกจะต้องมี Digital ID ที่มีมาตรฐานและได้รับความน่าเชื่อถือ จากนั้นก็สามารถนำไปดำเนินการต่อในการลงคะแนนเสียงหรือลงประชามติได้
1.3 การใช้ Blockchain ให้เกิดผลในทางปฏิบัตินั้น ปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุน ได้แก่ Digital ID ที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับ ซึ่งสามารถใช้ฐานข้อมูลที่มีการพิสูจน์และยืนยันตัวตนแล้วมาใช้ได้ เช่น NDID Platform หรือแอปพลิเคชันเป๋าตัง
2. รับทราบความก้าวหน้าการพัฒนางานบริการ Agenda สำคัญ ใน Agenda ระบบการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เดินทาง (Ease of traveling) ซึ่งได้มีการประชุมหารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาระบบ Ease of Traveling ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ใน Roadmap ในการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ โดยมีการเชื่อมโยงช่องทางการเข้าถึงงานบริการต่าง ๆ บนเว็บไซต์ Entry Thailand ตาม customer journey ของนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ช่วงก่อนเดินทางเข้าราชอาณาจักร ระหว่างอาศัยอยู่ในราชอาณาจักร และก่อนเดินทางออกจากราชอาณาจักร
ทั้งนี้ การพัฒนาเว็บไซต์ Entry Thailand เพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวสามารถนำไปต่อยอดกับแนวคิดของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ที่อยู่ระหว่างการศึกษา One Platform for Foreigner เพื่ออำนวยความสะดวกกับชาวต่างชาติตามกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักท่องเที่ยว นักลงทุนและนักธุรกิจ และแรงงาน ซึ่งจะต้องมีการบริหารจัดการและเชื่อมโยงข้อมูลบริการที่ครอบคลุมทั้ง 3 กลุ่ม และในอนาคตอาจมีการเชื่อมโยงกับ Entry Thailand เพื่อมุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวได้ โดยที่ประชุมมีข้อเสนอแนะให้ควรมีการกำหนดตัวชี้วัดที่เป็นการวัดผลลัพธ์นอกเหนือจากการวัดความสำเร็จของการดำเนินงานได้ตาม Roadmap เช่น การวัดความพึงพอใจหรือสัมภาษณ์ข้อมูลความพึงพอใจจากนักท่องเที่ยวในการใช้งานระบบ หรือความรวดเร็วในการให้บริการชาวต่างชาติระหว่างก่อนและหลังการพัฒนาเว็บไซต์ ซึ่งจะเป็นการวัดผลที่เป็นความสำเร็จของการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวได้อย่างแท้จริง