เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 สำนักงาน ก.พ.ร. จัดประชุมคณะทำงานจัดทำร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ฉบับแก้ไข ครั้งที่ 2/2564 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีเลขาธิการ ก.พ.ร. (นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ) ประธานคณะทำงาน เป็นประธานการประชุม ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกฯ ฉบับแก้ไข ที่ได้มีการปรับปรุงจากความเห็นของคณะทำงานฯ โดยที่ประชุมมีความเห็นที่จะนำไปสู่การปรับปรุงร่างฯ ให้มีความชัดเจนและเกิดสัมฤทธิผลในการบังคับใช้กฎหมาย ดังนี้
1. การกำหนดขอบเขตของการบังคับใช้ของพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกฯ โดยขยายไปยังงานบริการที่มีผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งจะต้องกำหนดให้มีความชัดเจนเนื่องจากจะส่งผลถึงการดำเนินการรายมาตราและการเปลี่ยนชื่อพระราชบัญญัติให้เกิดความเหมาะสม
2. ควรเพิ่มเติมเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.ฯ ให้รองรับกับการดำเนินการในอนาคตที่อาจจะต้องมีภาคเอกชนหรือภาคส่วนอื่น ๆ มาดำเนินการแทนภาครัฐ การเปิดช่องกรณีให้เอกชนสามารถเข้ามาดำเนินการแทนภาครัฐได้
3. การกำหนดกลไกบทบาทของ ก.พ.ร.ในการขับเคลื่อน เพื่อวางแนวทางให้หน่วยงานพิจารณาทบทวนกฎหมายของตัวเอง หรืออาจใช้กลไกแก้กฎหมายในราย Agenda เป็นแนวทางในการดำเนินการ
4. การกำหนดให้กรณีกฎหมายฉบับเดียวกัน มีผู้ปฏิบัติหลายหน่วยควรกำหนดให้ชัดเจนว่าให้หน่วยงานเจ้าของกฎหมายเป็นผู้ดำเนินการจัดทำคู่มือสำหรับประชาชน เพื่อให้เกิดคู่มือกลางที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
5. ในการจัดทำร่างกฎหมายควรเน้นสร้างแรงจูงใจให้หน่วยงานให้ความสำคัญกับการดำเนินการให้บริการผ่านระบบดิจิทัลมากขึ้น และควรพิจารณาให้สอดคล้องกับร่างพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ….
6. หลักการกำหนดข้อกฎหมายต่าง ๆ ควรมีการพิจารณาการดำเนินการเพื่อให้เทียบเท่ากับมาตรฐานสากล หรือมีข้อมูลเชิงประจักษ์มาใช้ประกอบในการพิจารณา
7. การเพิ่มกลไกการอนุมัติ อนุญาต หรือในกรณีการตรวจสอบกิจการ ควรมีการพัฒนากลไกที่จะรองรับกฎหมายในแต่ละเรื่อง โดยอาจใช้แนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทย และต้องมีกลไกควบคุมความเสี่ยง ทั้งนี้ กรณีความเสี่ยงต่ำอาจมีการใช้หลัก auto approve หรือระบบตรวจสอบ Check list ก่อนขออนุมัติ เป็นต้น
8. เพื่อให้เกิดความชัดเจนในวิธีปฏิบัติ ควรมีการจัดทำ Flow ให้เห็นขั้นตอน วิธีการดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีการยื่นคำขอและเอกสารประกอบการพิจารณาโดยวิธีการทางปกติไปจนถึงวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
ทั้งนี้ ความเห็นต่าง ๆ ของที่ประชุมจะได้มีการนำไปประกอบการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกฯ พร้อมทั้งเปิดให้ประชาชน ภาคเอกชน และหน่วยงานภาครัฐได้แสดงความคิดเห็นเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าวต่อไป