เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2564 สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ดำเนินกิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์จากหน่วยงานภาครัฐในการแปลงข้อเสนอแนะขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD) ด้านการเสริมสร้างความซื่อตรงในการบริหารงานภาครัฐของประเทศไทยไปสู่การปฏิบัติ โดยมีผู้แทนหน่วยงานรัฐ ซึ่งรวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมการประชุม จำนวน 450 คน
โดยกิจกรรม ประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่
1. การเสวนาในหัวข้อ “การประเมินและบริหารความเสี่ยงการทุจริตภาครัฐทั้งระบบ”
โดยมีวิทยากรผู้ร่วมเสวนา ได้แก่
นางศิริเนตร กล้าหาญ ที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ สำนักงาน ก.พ.ร.
และ นายสมชัย ถิระวันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส สำนักงาน ป.ป.ช.
และ 2. การเสริมสร้างขีดความสามารถศักยภาพของบุคลากรภาครัฐ
ในหัวข้อ “เทคโนโลยีดิจิทัลกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรภาครัฐด้านความซื่อตรง”
โดย ศ.ดร. สุชัชวีร์ สุววรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
1. หน่วยงานภาครัฐต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติต่อการประเมินและบริหารความเสี่ยงการทุจริต เนื่องจากผลการประเมินไม่ได้หมายความว่าหน่วยงานนั้นมีการทุจริตสูง แต่เป็นเครื่องมือที่ใช้ตรวจสุขภาพขององค์กร เพื่อเตือนถึงความเสี่ยงการทุจริตและจะได้ดำเนินการลดความเสี่ยงดังกล่าวก่อนที่จะเกิดพฤติกรรมการทุจริตขึ้น
2. หน่วยงานภาครัฐต้องเปิดกว้างและเรียนรู้ในการทำงานร่วมกัน โดยพัฒนาระบบเพื่อแบ่งปันและใช้ข้อมูลร่วมกัน และต้องคำนึงถึงการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูล และต้องนำข้อมูล (ข้อมูลความเสี่ยงการทุจริต ข้อมูลการประเมินผลปฏิบัติราชการ) ไปใช้ประโยชน์สูงสุด
3. ภาครัฐต้องแสวงหาวิธีการประเมินความเสี่ยงในการดำเนินงาน โดยเฉพาะความเสี่ยงการทุจริต และต้องเปิดกว้างให้เกิดกระบวนการตรวจสอบที่ประชาชนมีส่วนร่วม
4. การนำเครื่องมือทางการบริหารที่มีอยู่ในปัจจุบันไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ การนำข้อมูลการประเมิน ITA ไปใช้ปรับปรุงกระบวนงานเพื่อลดความเสี่ยงการทุจริต
5. การใช้เทคโนโลยีมาช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชนและลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐ เช่น e-Service
6. ภาวะผู้นำในองค์กรเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อการผลักดันให้องค์กรนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในกระบวนการทำงาน และผู้นำภาครัฐต้องเปิดใจพร้อมลงทุนนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาปรับใช้ในองค์กร