เมื่อวันอังคารที่ 25 สิงหาคม 2564 สำนักงาน ก.พ.ร. ได้จัดการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบราชการเกี่ยวกับการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล ครั้งที่ 4/2564 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล ประธานอนุกรรมการฯ เป็นประธานการประชุม
1. ที่ประชุมมีมติรับทราบ :
1.1 แนวทางการพัฒนาระบบรองรับการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล หรือ Digital ID ด้วยการพัฒนาระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าทางดิจิทัล (Face Verification Service – FVS) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2564
1.2 การขับเคลื่อนการให้บริการประชาชนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาฯ FVS ว่า สามารถดำเนินการพัฒนาในรูปแบบ sandbox กับบางหน่วยงานก่อนได้เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ควบคู่กับการดำเนินการพัฒนาในรูปแบบปกติของกรมการปกครอง โดยสำนักงาน ก.ล.ต. สามารถร่วมพัฒนาในรูปแบบ sandbox ได้ เนื่องจากมีงานบริการที่จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้รับบริการที่ได้รับการร้องขอ เช่น การประชุมผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวต้องพิจารณาถึงความพร้อมทางเทคโนโลยีในการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันของหน่วยงานและกรมการปกครอง
2. ที่ประชุมได้พิจารณาให้ความเห็นชอบแนวทางการดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล จำนวน 3 เรื่อง ดังนี้
2.1 กรอบการดำเนินการและแนวทางการขับเคลื่อนการให้บริการประชาชนผ่านระบบ อิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ทั้งที่เป็นการต่อยอดจากปัจจุบัน เช่น การพัฒนางานบริการบนระบบ Citizen Portal และ Biz Portal รวมทั้งเป็นการเชื่อมโยงจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกลาง เช่น การพัฒนางานบริการให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย โดยอาศัยการเชื่อมโยงระบบ Digital ID เพื่ออำนวยความสะดวก พร้อมทั้งเห็นชอบในหลักการการแต่งตั้งคณะทำงาน 12 คณะ เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนและติดตาม Agenda ทั้งหมด โดยมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมว่า ควรมีคณะทำงานกลางอีกชุดหนึ่ง เพื่อทำหน้าที่ออกแบบสถาปัตยกรรมการพัฒนาให้เชื่อมโยงกันทั้ง 12 เรื่อง เนื่องจากบางเรื่องจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานกลางที่เชื่อมโยงและสนับสนุนกับ Agenda อื่น เช่น การพัฒนา Digital ID หรือ One ID One SMEs สำหรับองค์ประกอบของคณะทำงานควรมีผู้ใช้งาน (User) ที่เป็นภาคเอกชนมาร่วมสะท้อนประเด็นหรือเรื่องสำคัญที่ควรปรับปรุง นอกจากนี้ควรมีการจัดทำระบบกลางเพื่อสนับสนุน เช่น Legal Requirement /การปรับแบบฟอร์มเพื่อใช้ขัอมูลร่วมกัน / Standard flow /IAL risk เป็นต้น
2.2 แผนการสื่อสารสร้างการรับรู้การขับเคลื่อนงานบริการภาครัฐไปสู่รูปแบบดิจิทัล โดยมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมว่าควรให้ความสำคัญกับทุกกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพการเข้าถึงเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน เพื่อให้เกิดความเข้าใจในเนื้อหาการสื่อสารได้ชัดเจน รวมทั้งสามารถสร้างเครือข่ายกับหน่วยงานอื่นสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ และใช้ช่องทาง influencer ที่มีผู้ติดตามอยู่จำนวนมากแล้วได้
2.3 แนวทางการส่งเสริมและพัฒนาส่วนราชการเพื่อขยายผลการออกเอกสารหลักฐานผ่านระบบดิจิทัล เพื่อผลักดันการแก้ไขปัญหาทั้งการปรับปรุงกระบวนการ กฎหมาย และประเด็นทางเทคนิคที่เป็นอุปสรรค เช่น ค่าใช้จ่ายใบรับรอง CA เป็นต้น รวมทั้งให้มีการประเมินความพร้อมของหน่วยงานสำหรับการออกเอกสารหลักฐานผ่านระบบดิจิทัล เพื่อพิจารณาแนวทางหรือวิธีการสนับสนุนหน่วยงานในการออกเอกสารหลักฐานผ่านระบบดิจิทัลที่เหมาะสมต่อไป