1. รายงานความก้าวหน้าโครงการการศึกษาออกแบบและจัดทำต้นแบบของระบบการค้าดิจิทัลแพลตฟอร์มแห่งชาติ
– การนำเสนอผลการศึกษา Flow กระบวนการนำเข้าส่งออก ที่มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก อาทิ ผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออก ภาคธุรกิจขนส่ง ภาคธุรกิจประกันภัย ภาคการเงินการธนาคาร หน่วยงานภาครัฐ และสำรวจความพร้อมในการเชื่อมโยงข้อมูลของแต่ละภาคส่วน ศึกษาแนวทางการพัฒนาแพลตฟอร์มของประเทศญี่ปุ่น และสิงคโปร์ พบว่า แพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศจะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยระบบจะข้อมูลจะส่งไปยังธนาคารในขั้นตอน Sale Agreement เพื่อให้ธนาคารมั่นใจได้ว่ามีคำสั่งซื้อจริง ช่วยทุกฝ่ายได้รับข้อมูลที่มาจากแหล่งเดียวกัน ซึ่งจะส่งผลให้กระบวนการดำเนินการทางธุรกิจง่ายขึ้น การซื้อขายแบบ B2B มีศักยภาพมากขึ้น คาดว่าจะเพิ่มมูลค่าการส่งออกได้ 2% หรือประมาณ 5 พันล้านบาท ลดความซ้ำซ้อนของเอกสาร ลดระยะเวลาในการทำงานได้ประมาณ 14 เท่า ข้อมูลมีความแม่นยำ เกิดความโปร่งใสและปลอดภัย อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสให้กับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเข้าถึงแหล่งเงินทุนต้นทุนได้ง่ายขึ้นในต้นทุนที่ต่ำลง นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาข้อกฎหมายที่อาจมีผลกระทบต่อการพัฒนาระบบ NDTP พร้อมกำหนดกรอบระยะเวลาการดำเนินการ และศึกษารูปแบบการลงทุนเพื่อนำเสนอแนวทางให้อนุกรรมการฯ ได้รับทราบในโอกาสต่อไป
2. ความก้าวหน้าการดำเนินการพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศของไทย และการขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ
– สำนักงานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาระยะที่ 1 ของระบบแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งจะครอบคลุม ผู้ส่งออก ธนาคาร และผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ และครอบคลุมธุรกรรมบางประเภท เช่น การออกเอกสาร e-purchase order e-invoice และ e-packing list พร้อมรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการของสำนักงาน กกร. ในเวทีสากลเพื่อให้ระบบสามารถเชื่อมต่อกับระบบ digital trade ของประเทศคู่ค้าได้ รวมถึงแนวทางการขอรับการสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งการพัฒนาระบบแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลฯ จะช่วยลดปัญหาการขอสินเชื่อซ้ำซ้อน (Double Financing) และจากข้อมูลสถิติเอกสารด้านการส่งออกของประเทศไทยที่มีจำนวนเอกสารต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านฉบับ ดังนั้น ในระยะยาวระบบแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลฯ จะสามารถเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศได้ โดยสามารถลดต้นทุนด้านเอกสารต่อเดือนได้ไม่น้อยกว่าพันล้านบาท
3. กรอบแนวทางการดำเนินงานของ อ.ก.พ.ร. เฉพาะกิจฯ
(1) ส่งเสริมการพัฒนาแพลตฟอรม์การค้าดิจิทิลระหว่างประเทศของไทย ให้สำเร็จก่อนประเทศอื่นในภูมิภาค เพื่อความได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศ
(2) ผลักดันการพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลฯ เพื่อให้ใช้งานได้ทันในการรองรับการเป็นเจ้าภาพ APEC ของประเทศไทยในปี ค.ศ. 2022
(3) จัดทำแผนและผังการดำเนินงาน (Roadmap & Blueprint) ในการพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศของไทย และกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในแต่ล่ะช่วงการดำเนินการ
(4) ดำเนินการบางส่วนไปก่อน เพื่อเป็นต้นแบบการพัฒนาในระยะต่อไป
ทั้งนี้ มีมติ แต่งตั้งคณะทำงานสำหรับดำเนินการ 3 คณะ ประกอบด้วย
1) คณะทำงานด้านเทคนิค เพื่อพัฒนาคุณสมบัติเชิงดิจิทัลของแพลตฟอรม์ ให้สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มการค้าของต่างประเทศได้ และเป็นไปตามมาตรฐานสากล
2) คณะทำงานด้านกฎหมาย เพื่อวางแผนและดำเนินการปรับปรงุแก้ไขกฎหมายที่เป็นอปุสรรค เพื่อสามารถให้บริการแพลตฟอร์มได้ตามกรอบเวลาที่กำหนด
3) คณะทำงานออกแบบรูปแบบเชิงธุรกิจ (Business Model) ของแพลตฟอร์ม เพื่อศึกษาและกำหนดแนวทางและวิธีการในการดำเนินการของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และจัดทำแผนและผังการดำเนินงาน (Roadmap & Blueprint) เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มในภาพรวม
กลุ่มงานการประชาสัมพันธ์ / จัดทำ