จากนั้น นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ ก.พ.ร. ได้กล่าวถึงการผลักดันการดำเนินการตามพระราชบัญญัติฯ เช่น การปรับปรุงคู่มือสำหรับประชาชน การลดระยะเวลาและขั้นตอนการให้บริการ การลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน และการพัฒนาการออกเอกสารราชการผ่านระบบดิจิทัล รวมทั้งผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดย นายจุมพล ศรีจงศิริกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนากฎหมาย และนายอภิชน จันทรเสน นักกฎหมายกฤษฎีกาชำนาญการ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงหลักการและแนวทางการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางกฎหมาย
นอกจากนี้สำนักงาน ก.พ.ร. ได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ (1) ภาคเอกชน ภาคประชาชน และนักวิชาการ และ (2) หน่วยงานภาครัฐ โดยมีนางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ ก.พ.ร. และนางสาววิริยา เนตรน้อย ที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ เป็นผู้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็น
กลุ่มภาคเอกชน ภาคประชาชน และนักวิชาการ มีข้อเสนอแนะในการปรับปรุงการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติฯ ที่สำคัญ เช่น
1. การมีแพลตฟอร์มในการให้บริการเพื่อให้ประชาชนแจ้งหรือตรวจสอบเรื่องร้องเรียนได้
2. การประชาสัมพันธ์คู่มือสำหรับประชาชนให้เข้าถึงประชาชนมากขึ้น
3. การพัฒนาให้เกิดสภาพบังคับ (Enforcement) อย่างจริงจัง
4. การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานเพื่อให้เกิดการอนุมัติอนุญาตที่เป็น One Stop Service อย่างแท้จริง
กลุ่มหน่วยงานภาครัฐ มีข้อเสนอแนะในการปรับปรุงการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติฯ ที่สำคัญ เช่น
1. การมีแพลตฟอร์มให้หน่วยงานสามารถแจ้งกรณีล่าช้าทุก ๗ วัน รวมทั้งอาจเพิ่มช่องทางให้ประชาชนสามารถตรวจสอบเรื่องที่ขออนุมัติอนุญาตไว้ได้
2. เปิดโอกาสให้บางหน่วยงานที่มีลักษณะเฉพาะสามารถเรียกรับเอกสารหรือหลักฐานเพิ่มเติมได้ เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐาน
3. การจัดตั้งศูนย์รับคำขอฯ ในอนาคตอาจไม่จำเป็นหากมีระบบการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์
กองยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการ / ภาพ
กลุ่มงานการประชาสัมพันธ์ / จัดทำ