ข่าวสาร ก.พ.ร.

การประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 ครั้งที่ 1/2566

12 ม.ค. 2566
0
การประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 ครั้งที่ 1/2566

เมื่อวันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2566 นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ ก.พ.ร. เป็นประธานการประชุม คณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 ครั้งที่ 1/2566 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีคณะทำงานจากภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) และสำนักงาน ก.ล.ต. เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวทางวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามพระราชบัญญัติฯ ที่ สพร. ได้จัดทำขึ้น โดยใช้แนวปฏิบัติกระบวนการดิจิทัลภาครัฐ 8 กระบวนการ สำหรับหน่วยงานที่มีความพร้อมทางเทคโนโลยีที่หลากหลาย ทั้งในระดับเริ่มต้น ระดับมาตรฐาน และระดับสูง ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นว่า

  1. การกำหนดวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามขั้นตอนต่าง ๆ ในแนวปฏิบัติกระบวนการดิจิทัลภาครัฐที่ สพร. จัดทำนั้น ควรมีคู่มือและแนวปฏิบัติในแต่ละขั้นตอนให้ชัดเจน รวมทั้งแนวทางหรือวิธีการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารหรือการดำเนินการต่าง ๆ ตลอดจนการเชื่อมโยงข้อมูลหรือระบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้รับบริการ ยกตัวอย่างเช่น
    1.1 การยืนยันตัวตนที่เหมาะสมกับระดับความน่าเชื่อถือของงานบริการ ซึ่งอาจต้องมีต้นแบบการดำเนินการ โดย สพร. มีศักยภาพทางเทคโนโลยีที่ให้คำแนะนำได้
    1.2 การจัดทำเอกสารในรูปแบบ PDF จะต้องตรวจสอบได้ว่าเป็นต้นฉบับจริงหรือไม่ โดยเฉพาะเอกสารสำคัญที่จะต้องมีการเข้ารหัสเพิ่มเติม
    1.3 การส่งคำขอหรือเอกสารหลักฐานผ่านอีเมล ซึ่งหากมีเอกสารหลักฐานจำนวนมากจะทำให้ไม่สะดวกกับผู้รับบริการ จึงควรพัฒนาให้มีการเชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง เพื่อลดจำนวนเอกสารหลักฐานที่ผู้รับบริการต้องจัดเตรียม
  2. การกำหนดให้ส่วนกลางออกแบบระบบสำหรับปฏิบัติงานให้กับหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ เป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้หน่วยปฏิบัติสามารถดำเนินการได้อย่างชัดเจนและเป็นมาตรฐานเดียวกัน เช่น ระบบการปฏิบัติงานด้านการคลัง e-LAAS ที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นพัฒนาขึ้น จะทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปฏิบัติได้ในรูปแบบมาตรฐานเดียวกัน เป็นต้น นอกจากการออกแบบระบบโดยส่วนกลางที่สนับสนุนการปฏิบัติให้กับหน่วยงานในพื้นที่ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เนื่องจาก อปท. มีข้อจำกัดในการพัฒนาระบบบริการของตนเอง แล้วนั้น ควรพิจารณาถึงการขอความร่วมมือจากภาคเอกชนหรือหน่วยงานของรัฐที่มีระบบหรือแพลตฟอร์มที่พร้อมให้บริการมาช่วยสนับสนุนได้ เช่น Traffy Fondue ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของ สวทช. ที่มีระบบ Dashboard และ Tracking ที่จะช่วยตรวจสอบการดำเนินการ รวมทั้งติดตามสถานะขั้นตอนการดำเนินการต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว
  3. การเสนอวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ในระยะแรกให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน 240 วัน สามารถจำแนกเนื้อหาออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นการออกแบบในภาพรวมที่แสดงถึงกรอบความคิด วิธีการ และเครื่องมือสนับสนุนวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด แม้ว่าจะยังไม่ได้ปฏิบัติในระยะแรกก็ตาม เช่น การเชื่อมโยงระบบระหว่างกัน (Application Programming Interface: API) เพื่อสนับสนุนการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันในแต่ละแพลตฟอร์ม และส่วนที่สองเป็นการออกแบบวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ขั้นพื้นฐาน เพื่อให้หน่วยงานที่มีความพร้อมขั้นต้นสามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้ในระยะแรก พร้อมทั้งมีคู่มือหรือแนวทางปฏิบัติสำหรับการใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น การจัดทำแนวปฏิบัติสำหรับการใช้งาน Application Line ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เป็นต้น

นอกจากนี้คณะทำงานฯ มีความเห็นเพิ่มเติมว่า การขับเคลื่อนการดำเนินการตามพระราชบัญญัติในระยะแรกนี้มีประเด็นที่ควรคำนึง 2 เรื่อง ได้แก่ (1) การดำเนินการทำได้โดยง่าย ไม่ซับซ้อนยุ่งยาก ทุกหน่วยงานสามารถปฏิบัติได้ให้ถูกต้องตามกฎหมาย และ (2) คำนึงถึงความสะดวกของประชาชนในทางปฏิบัติ ซึ่งสามารถกำหนดกรอบระยะเวลาติดตามและประเมินการดำเนินการตามวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ในระยะแรกภายใน 2 ปี โดยหากผลการประเมินพบว่าหน่วยงานของรัฐส่วนใหญ่มีศักยภาพและความพร้อมสำหรับวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ในระดับที่สูงขึ้น ก็สามารถเสนอวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ในระยะต่อไปก่อนระยะเวลา 2 ปีได้

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้กกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สำนักงาน ก.พ.ร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ ก.พ.ร. ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ ก.พ.ร. ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ ก.พ.ร. ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ ก.พ.ร. ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า