ข่าวสาร ก.พ.ร.

การส่งเสริมการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 สำหรับองค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น

2 ธ.ค. 2565
0

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 เวลา 13.30 น. นายธนิศร์ วงศ์ปิยะสถิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อส่งเสริมการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกับผู้บริหารของ 4 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) โดยมีนางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ ก.พ.ร. นายชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ นายณัฐวัชร์ วรนพกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล และนายจินตพันธุ์ ทังสุบุตร ผู้อำนวยการกองพัฒนากฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ร่วมประชุมหารือ พร้อมด้วย นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และผู้แทน 3 สมาคมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ณ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และระบบออนไลน์ผ่าน Webex แบบ Cloud Meeting พร้อมทั้งมีการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Fanpage :ท้องถิ่นไทย

นายธนิศร์ วงศ์ปิยะสถิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้กล่าวเปิดการประชุมว่าการดำเนินการในวันนี้จะเป็นเตรียมความพร้อมเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 สำหรับหน่วยงานของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคทั้ง 76 จังหวัด และองค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล ทุกแห่ง และเมืองพัทยา จำนวนกว่า 7,849 แห่ง โดยได้รับความร่วมมือจาก 4 หน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่สนับสนุนหน่วยงานในการดำเนินการตามกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งจะช่วยสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับ สาระสำคัญของกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมาย แนวทางการเตรียมความพร้อมการดำเนินการตามพระราชบัญญัติฯ สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั่วประเทศ

ภายหลังจากการกล่าวเปิดการประชุม หน่วยงานหลักทั้ง 4 หน่วยงาน ได้ร่วมกันชี้แจงแนวทางการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 ซึ่งมีสาระสำคัญประกอบด้วย

1. รองเลขาธิการ ก.พ.ร. ได้กล่าวถึงภาพรวมของพระราชบัญญัติฉบับนี้ซึ่งมีเจตนารมณ์ที่สำคัญที่จะทำให้เกิดการปฏิบัติราชการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และโปร่งใส มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ พร้อมทั้งได้กล่าวถึงสาระสำคัญของกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมาย บทบาทของ 4 หน่วยงานหลัก และการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานที่รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ โดยสำนักงาน ก.พ.ร. พร้อมที่จะสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สามารถดำเนินการตามแนวทางที่กำหนดไว้ในกฎหมายได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม
2. ผู้อำนวยการกองพัฒนากฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้กล่าวถึงที่มาของพระราชบัญญัติเพื่อให้การปฏิบัติงานและการให้บริการประชาชนของภาครัฐเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่มุ่งหวังให้ประชาชนทุกคนได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว โดยมีแนวปฏิบัติที่สำคัญในการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการปฏิบัติราชการและการให้บริการ อาทิ การติดต่อระหว่างหน่วยงานกับเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือประชาชนทางอิเล็กทรอนิกส์ สามารถใช้เป็นหลักฐานตามกฎหมายได้ การสั่งการและการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีกฎหมายกำหนดให้เป็นหนังสือ สามารถใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ เอกสารหลักฐานในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถใช้เป็นหลักฐานเบิกจ่ายได้ โดยการตรากฎหมายฉบับนี้ จะเป็นการขจัดอุปสรรคทางข้อกฎหมายของการดำเนินงานภาครัฐด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มประสิทธิภาพ ความรวดเร็ว ความประหยัด และความโปร่งใสตรวจสอบได้ในการปฏิบัติราชการ โดยหัวใจของการดำเนินการตามกฎหมายฉบับนี้ จะมุ่งเน้นประชาชนสะดวกให้เกิดความสะดวกเป็นหลัก
3. รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กล่าวว่า สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) มีบทบาทที่สำคัญในการสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยสามารถดำเนินการได้ตามแนวปฏิบัติที่กำหนดในพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยได้มีการจัดทำมาตรฐานว่าด้วยแนวปฏิบัติกระบวนการทางดิจิทัลภาครัฐ
ซึ่งสามารถใช้เป็นแนวปฏิบัติในการพัฒนาระบบการให้บริการและปฏิบัติราชการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติฯ เช่น แนวทางการยื่นขออนุญาตและตอบกลับทางอิเล็กทรอนิกส์ แนวทางการแสดงและตรวจสอบใบอนุญาตทางอิเล็กทรอนิกส์ การกำหนดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับประชาชน เป็นต้น
4. ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) มีหน้าที่สำคัญในการกำหนดมาตรฐานเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือของการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการปฏิบัติราชการและการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสนับสนุนให้เกิดมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการกำหนดมาตรฐานที่เกี่ยวข้องในหลายส่วน อาทิ มาตรฐานด้านการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล การประทับรับรองเวลาอิเล็กทรอนิกส์ ด้านการจัดทำเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ด้านการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ และมาตรฐานด้านอื่น ๆ

ภายหลังจากการชี้แจงของ 4 หน่วยงาน ได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้แทน 3 สมาคม ซึ่งได้มีการสอบถามแนวทางการดำเนินการ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนแนวทางการส่งเสริมการดำเนินการไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งเป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดกับประชาชน นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมประชุมผ่าน Facebook live ได้มีคำถามที่เกี่ยวกับการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 โดยทั้ง 4 หน่วยงาน ได้ร่วมกันตอบคำถามในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจที่มากขึ้น เช่น การดำเนินการขั้นต่ำตามพระราชบัญญัติฯ การเลือกใช้มาตรฐานการยืนยันตัวตนให้เหมาะสมกับงานบริการ การสมัครและการตั้งชื่อไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2564 เป็นต้น ซึ่งคำถามต่าง ๆ จะมีการรวบรวมและจัดทำเป็น FAQ และเผยแพร่ในเว็บไซต์สำนักงาน ก.พ.ร. หัวข้อ “ผลการพัฒนาระบบราชการ” หัวข้อย่อย “พระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565”

สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป ผู้แทนทั้ง 3 สมาคม จะมีการบูรณาการในการสร้างการรับรู้ให้แก่เทศบาล อบจ. และ อบต. ทั่วประเทศ โดยจะขอความร่วมมือจาก 4 หน่วยงานหลัก เข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินงาน ซึ่งในครั้งแรกจะมีการจัดขึ้นในวันที่ 9 ธันวาคม 2565 เพื่อให้เกิดการรับรู้และสร้างความเข้าใจในวงกว้างกับเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลต่อไป

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้กกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สำนักงาน ก.พ.ร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ ก.พ.ร. ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ ก.พ.ร. ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ ก.พ.ร. ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ ก.พ.ร. ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า