เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 13.30 น. สำนักงาน ก.พ.ร. จัดการประชุม อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการส่งเสริมและยกระดับการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการและการประกอบธุรกิจ ครั้งที่ 5/2565 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีเลขาธิการ ก.พ.ร. (นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ) เป็นประธาน
สรุปการประชุมที่สำคัญ ดังนี้
แนวทางการส่งเสริมการดำเนินการตามหลักการในการปรับปรุง พ.ร.บ. การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 โดยฝ่ายเลขานุการฯ เสนอแนวทางในการดำเนินการ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ การทดลองนำร่องในหน่วยงาน หลักการที่จะศึกษาเพิ่มเติม และการสื่อสารสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการปรับปรุงพระราชบัญญัติฯ ให้มีความชัดเจนตามเจตนารมณ์ ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบและมีความเห็นเพิ่มเติมว่าควรมีการเพิ่มจำนวนของหน่วยงานนำร่องเพื่อให้ได้แนวทางการดำเนินการที่หลากหลายเป็นตัวอย่างให้กับหน่วยงานอื่น โดยคัดเลือกจากส่วนราชการที่มีกระบวนงานเป็นจำนวนมาก
รับทราบในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
1. พ.ร.บ. การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2565 และมีผลใช้บังคับเมื่อพ้น 90 วัน ยกเว้นมาตรา 12, 15, 19, 22 ที่ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา
2. พ.ร.บ. กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. 2565 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2565 และมีผลใช้บังคับเมื่อพ้น 90 วัน นับตั้งแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
3. มติ ครม. เรื่อง มติคณะรัฐมนตรี เรื่อง รายงานผลการทบทวนและปรับปรุงระยะเวลาการพิจารณาอนุญาตของหน่วยงานของรัฐ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 ซึ่งมีกระบวนงานเสนอปรับลดระยะเวลาภายในปี พ.ศ. 2565 จำนวน 100 กระบวนงาน โดยลดเวลาลงเฉลี่ย 44%
4. ผลสำรวจความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2565 โดยสำรวจจากกลุ่มเป้าหมาย 8,158 ตัวอย่าง พบว่ามีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจ 81.69% และมีประเด็นที่ประชาชนมีความพึงพอใจสูงสุด ได้แก่ ด้านเจ้าหน้าที่ให้บริการ และประเด็นที่พึงพอใจน้อยที่สุด ได้แก่ ด้านขั้นตอนและระยะเวลาการให้บริการ ในประเด็นระยะเวลารอคอยในการขอรับบริการ โดยผลสำรวจความพึงพอใจจะนำไปสู่การปรับปรุงการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐต่อไป
5. รายงานผลการออกใบอนุญาต การตรวจสอบ และการรับรองมาตรฐานต่าง ๆ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 – 2565 โดยพบว่าในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 มีจำนวนการขออนุญาตเพิ่มสูงขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 16.32 และหน่วยงานส่วนใหญ่สามารถดำเนินการได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในคู่มือสำหรับประชาชน สำหรับการดำเนินการในระยะต่อไป สำนักงาน ก.พ.ร. จะให้หน่วยงานรายงานการอนุญาตผ่าน เว็บไซต์ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อการติดต่อราชการ (www.info.go.th) ที่พัฒนาขึ้นร่วมกันระหว่างสำนักงาน ก.พ.ร. และ DGA เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลการบริการและจุดบริการ ให้หน่วยงานในพื้นที่สามารถรายงานผลการดำเนินการเข้ามาได้โดยตรง
การเรียกเอกสารหลักฐานที่มีการติดอากรแสตมป์ในการติดต่อราชการ ที่ประชุมได้หารือและมีความเห็นว่าการติดอากรแสตมป์ในเอกสารประกอบการยื่นคำขออาจเป็นอุปสรรคต่อการให้บริการด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจากคู่มือสำหรับประชาชนพบว่า มี 1,045 กระบวนงานที่ต้องติดอากรแสตมป์ตามมาตรา 104 ของประมวลรัษฎากร โดยส่วนมากเป็นใบมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทน และถึงแม้ในปัจจุบันมีรูปแบบการชำระอากรแสตมป์ทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Stamp) ที่พัฒนาโดยกรมสรรพากรรองรับการชำระแทนเงินสดแล้วแต่ยังไม่ได้รับความนิยมที่แพร่หลาย ที่ประชุมจึงเห็นควรเผยแพร่ให้ผู้ประกอบการหรือประชาชนรับทราบ e-Stamp และมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ศึกษาเพิ่มเติมถึงความจำเป็นของอากรแสตมป์ดังกล่าว