รองเลขาธิการ ก.พ.ร. (นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข) ผู้แทนสำนักงาน ก.พ.ร. พร้อมด้วย ดร.สุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อํานวยการสํานักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) และ นายสัญชัย เตชนิมิตวัช ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโยโลยีสารสนเทศและระบบข้อมูล กรมการปกครอง ร่วมการเสวนาในหัวข้อ “Digital Government Platform : Digital ID (ระบบการยืนยันตัวตน) “ประชาชนจะได้ประโยชน้อะไร? หน่วยงานรัฐจะใช้อย่างไร?” ในงาน DG Summit 2022 เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 เวลา 14.30-15.30 น. โดยมีสรุปสาระสำคัญที่ได้จากการเสวนา ดังนี้
1. สิ่งสำคัญของการรับบริการผ่านระบบดิจิทัล โดยเฉพาะการทำธุรกรรมกับภาครัฐ คือ การที่ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ที่กำลังรับบริการคือบุคคลคนนั้นจริงๆ ดังนั้น Digital ID จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัล
2. Digital ID ส่งผลให้เกิดการยกระดับการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ เพิ่มความโปร่งใสโดยการลดดุลพินิจของเจ้าหน้าที่เพราะมีการนำระบบการประมวลผลอัตโนมัติ (Automate Processing) มาทดแทน ทำให้ประชาชนได้รับบริการรวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย ประชาชนสามารถรับบริการภาครัฐได้ทุกที่ ทุกเวลา นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถนำเวลาการให้บริการที่ลดลงไปพัฒนาการให้บริการด้านอื่นๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. ระบบข้อมูลกลางภาครัฐของ สดช. จะเป็นส่วนผลักดันที่ให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างภาครัฐด้วยกัน เพื่อสนับสนุนให้ Digital ID สามารถเกิดการตรวจสอบและเชื่อมโยงกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงทำให้เกิด Big Data สำหรับการให้บริการด้านดิจิทัลแก่ประชาชน และการกำหนดนโยบายของรัฐในภาพรวม
4. ภาครัฐ มุ่งเน้นการทำ Platform กลางภาครัฐ ที่ทุกหน่วยงานสามารถพัฒนางานบริการได้ในจุดเดียว ทำให้ประชาชนสามารถรับบริการได้ ณ จุดเดียวเช่นเดียวกัน เช่น ปัจจุบันมีการพัฒนาแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ที่รวบรวมงานบริการเพื่อประชาชน โดยในระยะแรกเป็นการรวบรวมงานบริการด้านสิทธิและสวัสดิการ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการบริการภาครัฐได้ ไม่จำเป็นต้องโหลดแอปพลิเคชันภาครัฐที่มีมากมายในปัจจุบัน
5. D.DOPA ถือเป็น Digital ID ประเภทหนึ่ง ที่เปรียบเสมือนบัตรประชาชนในโลก Digital ที่รับรองโดยกรมการปกครอง เพื่อให้เชื่อมั่นได้ว่าผู้รับบริการผ่านระบบดิจิทัลเป็นบุคคลคนนั้น หรือเป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับอนุญาต และในอนาคตกรมการปกครองจะยกระดับโดยการให้บริการด้านทะเบียนราษฎร์เพื่อเข้าสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบหรืออาจเรียกได้ว่า “อำเภอในโลกดิจิทัล”
6. นอกจากจะมี D.DOPA แล้ว ยังมี Digital ID อีกหลายประเภท เช่น NDID, MobileID เป็นต้น ซึ่งแต่ละเทคโนโลยีมีจุดแข็งของตัวเอง ซึ่งประชาชนสามารถเลือกใช้ Digital ID ที่ตนเองสะดวกหรือเชื่อมั่นได้ตามความต้องการในการใช้งาน
7. Digital ID ถือเป็นกุญแจดอกสำคัญเพื่อเข้าสู่บริการภาครัฐในรูปแบบ e-Service ที่ประชาชนสามารถอนุญาตให้หน่วยงานภาครัฐ ทำการเชื่อมโยงข้อมูลหลังบ้านสำหรับให้บริการได้แบบไร้รอยต่อ (Seamless) ที่สมบูรณ์แบบ ระบบ Digital ID จึงถือเป็นกุญแจที่สามารถทะลุทะลวงเพื่อรับบริการและการส่งต่อข้อมูลระหว่างหน่วยงานสำหรับให้บริการผ่านระบบดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนสามารถรับบริการได้ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ (End-to-End Process) ผ่านระบบพอร์ทัลกลางภาครัฐ เช่น Citizen Portal ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ หรือ Biz Portal ได้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ในวงเสวนาเห็นพ้องกันว่า สิ่งสำคัญของการให้บริการผ่านระบบดิจิทัล คือ การแชร์ข้อมูลระหว่างกันของหน่วยงานภาครัฐเพื่อให้สามารถปรับกระบวนการให้บริการได้ผ่านระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ บนพื้นฐานของธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance) และแนวทางการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ที่มีแนวทางในการส่งผ่านข้อมูลส่วนบุคคลที่ปลอดภัย และเป็นประโยชน์แก่ประชาชนเจ้าของข้อมูล ดังนั้น เมื่อมี Digital ID ที่ได้มาตรฐาน ร่วมกับมีการเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อการให้บริการระหว่างหน่วยงานภาครัฐที่ปลอดภัย ก็จะทำให้เกิดการบริการด้วยระบบดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบของภาครัฐ ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดบนแนวคิด “Digital First” ต่อไป