เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 นายมงคล วิมลรัตน์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ประชุมหารือร่วมกับนางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ ก.พ.ร. นายณัฐวัชร์ วรนพกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล พร้อมด้วยผู้บริหารและผู้แทนหน่วยงานที่ร่วมบูรณาการพัฒนาระบบ Ease of Traveling อาทิ นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายปิ่นสาย สุรัสวดี ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี กรมสรรพากร เพื่อติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาระบบ Ease of Traveling และแนวทางการเชื่อมโยงกับพอร์ทัลกลางเพื่อชาวต่างชาติ (One Platform for Foreigner)
รองเลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาระบบ Ease of Traveling ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ใน Roadmap ในการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกระทรวงฯ มีช่วงเวลาที่เหลือในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ในการพัฒนาเว็บไซต์ Entry Thailand ให้เกิดความสะดวกในการใช้บริการทั้งก่อนการเดินทางเข้าประเทศไทย การอาศัยอยู่ในประเทศไทย และก่อนเดินทางออกจากประเทศไทย ทั้งนี้ การพัฒนาเว็บไซต์ Entry Thailand สามารถนำไปต่อยอดกับแนวคิดของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ที่อยู่ระหว่างการศึกษา One Platform for Foreigner
รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กล่าวว่า One Platform for Foreigner จะเป็นแพลตฟอร์มที่อำนวยความสะดวกแก่ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยทุกกลุ่ม เช่น นักท่องเที่ยว นักลงทุน แรงงาน ผู้พำนักอาศัยในประเทศไทยทั้งระยะสั้นและระยะยาว นักศึกษา โดยได้ศึกษางานบริการของหน่วยงานรัฐที่ให้บริการชาวต่างชาติทุกกลุ่ม ผ่านการสำรวจ สัมภาษณ์ การรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องซึ่งมีความเห็นสำคัญให้รองรับต่อการพัฒนาในอนาคต เช่น การมี Digital ID สำหรับชาวต่างชาติ ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของระบบที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ สามารถกำหนดพอร์ทัลบริการชาวต่างชาติตามกลุ่มเป้าหมายไว้ในแพลตฟอร์ม จำนวน 4 กลุ่ม ได้แก่ (1) นักท่องเที่ยว (2) นักลงทุนและนักธุรกิจ (3) แรงงาน และ (4) ข้อมูลบริการที่ครอบคลุมทั้ง 3 กลุ่ม โดยในอนาคตสามารถเชื่อมโยงกับ Entry Thailand เพื่อมุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวได้
ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ กรมสรรพากร กรมควบคุมโรค กรมการกงสุล กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ให้ความร่วมมือในการเชื่อมโยงข้อมูลการให้บริการหรือเว็บไซต์ของหน่วยงานมาให้บริการบนเว็บไซต์ Entry Thailand ได้แล้วเสร็จภายใต้กรอบระยะเวลาตาม Roadmap ที่กระทรวงฯ กำหนดไว้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยไตรมาสแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ได้มุ่งเน้นการเชื่อมโยงงานบริการในช่วงก่อนการเดินทางเข้าประเทศ ที่ให้บริการนักท่องเที่ยวผ่านเว็บไซต์ Entry Thailand โดยในช่วงที่ผ่านมามีผู้เข้าใช้งานหรือเยี่ยมชมเว็บไซต์เฉลี่ย 700-800 คน/วัน สำหรับไตรมาสต่อไปจะพัฒนาเชื่อมโยงกับระบบ e-VOA ร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และการพัฒนาการเข้าใช้บริการการขอคืนภาษีร่วมกับกรมสรรพากรให้สามารถเข้าใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะดำเนินการจัดทำคู่มือเรื่องระบบอำนวยความสะดวกกับผู้เดินทาง ฉบับภาษาอังกฤษ เพื่อประชาสัมพันธ์ไปยังสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุล ประจำประเทศไทย รวมทั้งขอความร่วมมือให้นำ Entry Thailand ไปประชาสัมพันธ์ในเว็บไซต์ต่าง ๆ ตลอดจนจะจัดให้มีการลงนาม MOU ร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565เพื่อพัฒนาระบบ Ease of Traveling ในระยะยาว
สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะได้มุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวระหว่างพำนักอยู่ในประเทศไทย โดยจะเป็นการพัฒนาในเรื่องของ e-payment และอาจต่อยอดการดำเนินการจาก Roadmap ในการเชื่อมโยงงานบริการกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาการท่องเที่ยวในสาขาต่าง ๆ เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการให้บริการด้านการท่องเที่ยวทางธรรมชาติในเขตพื้นที่อุทยาน กรมอุตุนิยมวิทยา ในการให้บริการแจ้งเตือนการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศหรือภัยพิบัติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการให้บริการการท่องเที่ยวเชิงเกษตร สุขภาพ สมุนไพร กระทรวงวัฒนธรรม ในการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม โบราณสถาน เป็นต้น
