เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2565 นางสาววิริยา เนตรน้อย ที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ เป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรม “จากก้าวแรก ก้าวต่อไป สู่ก้าวสำคัญ”: การขยายผลต้นแบบนวัตกรรมด้านการบริการภาครัฐในระดับจังหวัด เพื่อริเริ่ม “ห้องปฏิบัติการนวัตกรรมภาครัฐ หรือ Government Innovation Lab” ภายใต้โครงการพัฒนานวัตกรรมงานบริการภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
โครงการพัฒนานวัตกรรมงานบริการภาครัฐ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ให้ความสำคัญกับการขยายผลต้นแบบนวัตกรรมด้านการบริการภาครัฐในระดับจังหวัด จึงได้คัดเลือก “โครงการคู่เสี่ยว เกี่ยวก้อย แก้จน คนขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น” ที่มีความโดดเด่นในการบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานทุกภาคส่วนในจังหวัดและการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งพบว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความสำเร็จให้กับการแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน และได้รับรางวัลเลิศรัฐการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ประเภทรางวัลร่วมใจแก้จน ประจำปี พ.ศ. 2563 โดยจะนำมาเป็นฐานคิดในการต่อยอดขยายผลภายใต้ห้องปฏิบัติการนวัตกรรมภาครัฐ พัฒนาเป็นโมเดลในการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและขจัดความยาจนที่มีความเหมาะสมกับบริบทของพื้นที่จังหวัดอ่างทอง พร้อมทั้งจะนำร่องปฏิบัติการในระดับพื้นที่ 1 อำเภอ คือ อำเภอโพธิ์ทอง
กิจกรรมในวันนี้เป็นเสมือนก้าวแรกของการทำงานร่วมกันอย่างเป็นเครือข่ายระหว่างสำนักงาน ก.พ.ร. จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดขอนแก่น โดยมีผู้เข้าร่วมจากจังหวัดอ่างทอง ได้แก่ นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช หัวหน้าสำนักงานจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยผู้แทนสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยผู้แทนจากอำเภอโพธิ์ทอง ได้แก่ นายอภิชาติ ศรีเหรา นายอำเภอโพธิ์ทอง พร้อมด้วยผู้บริหารของส่วนราชการ (พัฒนาการอำเภอ/เกษตรอำเภอ/ปศุสัตว์อำเภอ/ท้องถิ่นอำเภอ) ผู้บริหารสถาบันการศึกษา ผู้บริหารหน่วยงานสาธารณสุข ท่านนายกเทศมนตรี กำนัน ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และกลุ่มแม่บ้าน ที่เกี่ยวข้องของอำเภอโพธิ์ทอง และมีผู้เข้าร่วมจากจังหวัดขอนแก่น ได้แก่ นางสาวอัญชนิดา กมลเพ็ชร ผู้อำนวยการกลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชนจังหวัดขอนแก่น และผู้แทนสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดขอนแก่น
ที่ปรึกษาฯ ได้สะท้อนให้เห็นว่า “ห้องปฏิบัติการนวัตกรรมภาครัฐ หรือ Gov Lab” จะเป็นเสมือนห้องแล็บในการทดลองการทำงานใหม่ ๆ ร่วมกันของทุกภาคส่วน ที่จะทำให้ทุกท่านได้คิดร่วมกันว่าจะออกแบบการแก้จนที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ได้อย่างไร เป็นการพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นทั้งเพื่อตัวเราเองที่ทำให้ท่านได้พัฒนางานให้มีประสิทธิภาพ ทำได้ง่ายขึ้น และประชาชนเองก็ได้รับประโยชน์ สะดวก และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย ซึ่งความร่วมมือระหว่างสองจังหวัดถือเป็นการสร้างพลังในการเรียนรู้แลกเปลี่ยน ทางขอนแก่นเองก็จะได้รับมุมมองใหม่ ๆ ที่จะช่วยปรับปรุงขยายผลการดำเนินการภายในจังหวัด อีกทั้งยังช่วยให้เกิดการต่อยอดการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง และนำไปสู่การบูรณาการแนวทางการแก้ปัญหาความยากจนร่วมกันได้ด้วย