เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 สำนักงาน ก.พ.ร.ได้จัดกิจกรรมเสวนา KM Online หัวข้อ “นวัตกรรมพร้อมใช้
ในการจัดการขยะ ขยายผลตาลเดี่ยวโมเดล เพื่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตที่ดีขึ้น” ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ 2 ช่องทาง ได้แก่ Facebook และ Youtube ของสำนักงาน ก.พ.ร. นับเป็นหนึ่งในกิจกรรมดี ๆ ที่จัดขึ้นเพื่อขยายผล “ตาลเดี่ยวโมเดล” ซึ่งคว้ารางวัลเลิศรัฐ สาขาบริการภาครัฐ ประจำปี 2564 ประเภทนวัตกรรมการบริการระดับดีเด่น ผลงานของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) โดยความร่วมมือขององค์การบริหารส่วนตำบลตาลเดี่ยว อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
การจัดกิจกรรมเสวนา KM Online ในครั้งนี้ มีผู้สนใจจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ (ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น) ภาคเอกชน ภาคประชาชน สถาบันการศึกษา และหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก (กว่า 1,500 ท่าน)
ในการนี้ ได้รับเกียรติจากรองเลขาธิการ ก.พ.ร. (นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข) และอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (นายประยูร รัตนเสนีย์) เป็นประธานร่วมกล่าวเปิดการเสวนาฯ ส่วนวิทยากร 5 ท่าน ได้นำเสนอนวัตกรรมและร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นำทีมโดย ดร.เรวดี อนุวัฒนา นักวิจัยอาวุโส ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมพลังงานสะอาด
และสิ่งแวดล้อม (ศนพ.)สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และนายมงคล สุขศิลา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาลเดี่ยว อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ร่วมด้วยผู้แทนจาก 3 จังหวัดขยายผลตาลเดี่ยวโมเดล ได้แก่ เชียงราย หนองคาย และชลบุรี ดำเนินการเสวนา โดย ดร.ธนาพร เต็งรัตนประเสริฐ สรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้
–
นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ ก.พ.ร. : รางวัลเลิศรัฐเป็นรางวัลเกียรติยศ เป็นความภาคภูมิใจของหน่วยงาน และที่สำคัญเป็นต้นแบบในการขยายผลไปสู่การปฏิบัติ ความสำเร็จที่เกิดขึ้นนอกจากองค์ความรู้
ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) แล้ว ยังต้องอาศัยความร่วมมือจากชุมชน ซึ่งการจัดการขยะ
เป็นความรับผิดชอบของเราทุกคน อีกทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศสามารถนำไปปรับ/ประยุกต์ใช้
ให้เกิดประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
–
นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น : ปัญหาขยะส่งผลกระทบต่อชีวิต
ของประชาชน รัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มีนโยบายจัดการขยะ ทั้งต้นทางตามหลัก 3Rs หรือ
3ช : Reduce (ใช้น้อย) Reuse (ใช้ซ้ำ) และ Recycle (นำกลับมาใช้ใหม่) กลางทาง ได้แก่ การขนส่ง และปลายทาง ได้แก่ การกำจัด/การแปรรูป การจัดการขยะนับเป็นภารกิจสำคัญของ อปท. ซึ่งทำงานใกล้ชิดกับประชาชน และประชาชนต่างคาดหวังการทำงานของ อปท. เช่นกัน ซึ่งปัจจุบัน อปท.หลายแห่งมีความกระตือรือร้นและมีผลงานการจัดการขยะที่น่าชื่นชม
– ดร.เรวดี อนุวัฒนา นักวิจัยอาวุโส ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อม (ศนพ.)สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้นำเสนอผลงาน 5 นวัตกรรมพร้อมใช้ในการจัดการขยะปลายทาง “ตาลเดี่ยวโมเดล”ที่เปลี่ยนขยะสู่พลังงาน (Waste to Energy) และขยะสู่รายได้ (Waste to Wealth เพื่อความยั่งยืนของชุมชน
และสิ่งแวดล้อม ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Model)
ได้แก่ 1. ระบบคัดแยกขยะแบบกึ่งอัตโนมัติ 2. ระบบคัดแยกชนิดและสีพลาสติก พร้อมผลิตเกล็ดพลาสติกคุณภาพสูง 3. ระบบผลิตเชื้อเพลิงขยะอัดแท่ง (RDF5) 4. ระบบบำบัดน้ำเสียเศษอาหารและน้ำชะขยะ และผลิตพลังงานสะอาด 5. ระบบถังหมักขยะอินทรีย์ ลดการแพร่พันธุ์ของพาหะนำโรค ส่วน 4 นวัตกรรมพร้อมใช้ในการจัดการขยะต้นทาง จะเน้นการจัดตั้งสถานีจัดการขยะชุมชน ภายใต้กรอบความร่วมมือ บ้าน-วัด-โรงเรียน “บ-ว-ร” ซึ่งได้นำร่องในพื้นที่เทศบาลตำบลหาดคำ อ.เมืองฯ จ.หนองคาย เทศบาลตำบลจันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย และเทศบาลเมืองแสนสุขร่วมกับโรงเรียนวัดราษฎร์ศรัทธา อ.เมืองฯ จ.ชลบุรี ได้แก่ 1. การจัดตั้งสถานีจัดการขยะชุมชนร่วมกับของเหลือทิ้งจากภาคการเกษตรเพื่อขับเคลื่อนการจัดการขยะต้นทาง 2. การฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีการจัดการขยะชุมชนทั้งขยะรีไซเคิลและของเหลือทิ้งภาคการเกษตร เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่ม 3. การรวบรวมขยะที่ต้นทางจากชุมชนเพื่อแปรรูปและสร้างมูลค่าเพิ่มตามเศรษฐกิจหมุนเวียน ร่วมกับการจัดการขยะชุมชน น้ำเสีย และการผลิตพลังงานทดแทนชีวภาพ 4. พัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนนวัตอัตลักษณ์จากขยะชุมชนและของเหลือทิ้งในแต่ละภูมิภาค
ทั้งนี้ วว. ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำนวัตกรรมที่เหมาะสมสอดคล้องกับศักยภาพและบริบทของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งจะเป็น Centre ในการประสานการศึกษาดูงานในพื้นที่ต้นแบบทั้ง 4 แห่ง โดยสามารถติดต่อได้ที่ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) 35 เทคโนธานี ถ.เลียบคลองห้า ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120 โทร. 02 577 9479/9490 หรือ e – mail rewadee_a@tistr.or.th
จากนั้น นายมงคล สุขศิลา นายก อบต.ตาลเดี่ยว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จ่าเอก กรวิษ แสนสุพรรณ์ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลหาดคำ อ.เมืองฯ จ.หนองคาย นายจันทร์ จันโย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 บ้านหนองปึ๋ง ต.จันจว้าใต้ อ.แม่จัน จ.เชียงราย และนายภาณุ ภาณุพินทุ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดราษฎร์ศรัทธา อ.เมืองฯ จ.ชลบุรี ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับความโดดเด่น การดำเนินงาน ผลสำเร็จ และ
ประโยชน์ที่ได้รับจากใช้นวัตกรรมของ วว. และขอเชิญชวนให้ อปท.ทั่วประเทศจัดการขยะด้วย วทน./นวัตกรรมพร้อมใช้ของ วว.
สำหรับผู้ร่วมกิจกรรมเสวนา KM Online ได้ให้ความสนใจนวัตกรรมการจัดการขยะของ วว. รูปแบบ/
วิธีการนำไปขยายผลหรือต่อยอดในพื้นที่ และการแปรรูปขยะเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ รวมทั้งการศึกษาดูงานในพื้นที่ต้นแบบทั้ง 4 แห่ง พร้อมทั้งได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซักถาม และแสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ ยังให้ความสนใจเรื่องขยะติดเชื้อในสถานการณ์โควิดและขยะของเสียอันตรายอีกด้วย ซึ่งจากการประเมิน ผู้ร่วมกิจกรรม
ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ และเห็นว่าเป็นประโยชน์ในการนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับ
ศักยภาพ/บริบทของพื้นที่ ต่อยอดในการทำงานและการจัดการขยะขององค์กร ชุมชน รวมทั้งตนเอง ซึ่งจะส่งผลในวงกว้างต่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป
สามารถรับชม Clip การเสวนา KM Online ย้อนหลังได้ที่ Facebook และ Youtube สำนักงาน ก.พ.ร. https://www.facebook.com/OPDCThailand หรือ
https://www.youtube.com/channel/UCedvHyWHYZZWmSZbcib6URA/videos และ Download File ประกอบการเสวนาฯ ได้ที่ http://opdc.link/NmMwOQ หรือ https://bit.ly/3KjqJSJ