เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านการประชุมประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็น (ร่าง) แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2566 – 2570 ในรูปแบบออนไลน์ จากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป โดยมีนายดอน ปรมัตต์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุม และนางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ ก.พ.ร. ได้ร่วมเป็นวิทยากรในช่วงการเสวนา ประชาพิจารณ์ (ร่าง) ยุทธศาสตร์ที่ 4
สรุปสาระสำคัญของการประชุม ดังนี้
1. พระราชบัญญัติการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562 มาตรา 5 กำหนดให้มีการจัดทำแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลเพื่อกำหนดกรอบและทิศทางการบริหารงานภาครัฐ และการจัดทำบริการสาธารณะในรูปแบบของเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการพัฒนาประเทศ มีการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และมีกรอบการพัฒนาและแผนการดำเนินงานของประเทศ โดยแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทยฉบับปัจจุบัน ปี พ.ศ. 2563 – 2565 กำลังจะสิ้นสุด ตามกรอบระยะเวลา และเพื่อให้การดำเนินการมีความต่อเนื่อง สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) จึงได้ดำเนินการจัดทำ (ร่าง) แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2566 – 2570 ที่มุ่งเน้นการบริหารงานและการจัดทำบริการสาธารณะในรูปแบบและช่องทางดิจิทัล ด้วยการบริหารจัดการและการบูรณาการข้อมูลภาครัฐ เพื่อให้การทำงานที่มีความสอดคล้องเชื่อมโยงกันอย่างมั่นคงปลอดภัยและมีธรรมาภิบาล อันจะก่อให้เกิดการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพและความสะดวกในการเข้าถึงบริการของประชาชนและภาคเอกชน พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลภาครัฐต่อสาธารณชนเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
2. (ร่าง) แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2566-2670 มีวิสัยทัศน์ “บริการภาครัฐสะดวก โปร่งใส ทันสมัย ตอบโจทย์ประชาชน” มีเป้าหมายในการให้บริการที่ตอบสนองประชาชนและลดความเหลื่อมล้ำ (Responsive Government) เพิ่มความสามารถและศักยภาพในการแข่งขันของภาคธุรกิจ (Enhance Competitiveness) โปร่งใส เปิดเผยข้อมูลประชาชน เชื่อถือและมีส่วนร่วม (Open Government & Trust) และภาครัฐที่ปรับตัวทันการณ์ (Agile Government) ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์สำคัญ ได้แก่
ยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาบริการที่สะดวกและเข้าถึงง่ายด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
ยุทธศาสตร์ที่ 2 สร้างมูลค่าเพิ่มและอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
ยุทธศาสตร์ที่ 3 ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน และเปิดเผยข้อมูลเปิดภาครัฐ
ยุทธศาสตร์ที่ 4 บูรณาการข้อมูลและกระบวนงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เพื่อการบริหารงานที่ยืดหยุ่น คล่องตัว และมีประสิทธิภาพ
3. รองเลขาธิการ ก.พ.ร. ได้นำเสนอประเด็นที่เกี่ยวข้องกับร่างแผนดังกล่าวใน 3 ประเด็น ประกอบด้วย
3.1 สิ่งที่ภาครัฐดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ การบูรณาการข้อมูล ในรูปแบบ Biz portal Citizen portal และแอฟลิเคชันทางรัฐ เป็นต้น รวมถึงการผลักดันงานบริการ e-Service ให้เป็นแบบ Fully Digital ตั้งแต่การค้นหาข้อมูล การยืนยัน การกรอกข้อมูล การยื่นคำขอ การตรวจสอบข้อมูล การชำระค่าธรรมเนียม ใบอนุญาต และการจัดส่งใบอนุญาต ซึ่งเป็นเป็นดิจิทัลจะทำให้เกิดการปรับกระบวนงานให้สั้นลง มุ่งเน้นการทำ Digital Transformation และ Agile Government
3.2 การเป็น Fully Digital Government ในอนาคต ควรต้องมีแนวทางในการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ มีโครงการที่ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ และต้องเชื่อมโยงรัฐและเอกชนเข้าด้วยกันในการบูรณาการการทำงาน
3.3 ข้อเสนอแนะในการดำเนินการ ควรปรับเปลี่ยนวิธีคิดและกระบวนการทำงาน โดยบริหารงานแบบยืดหยุ่น ควรสร้างระบบการทำงานแบบไร้รอยต่อ (Seamless) โดยต้องคำนึงถึงการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลด้วย และ Digital Policy ทั้งด้านงบประมาณ ด้านการพัฒนาบุคลากร และการแก้ไขกฎหมายให้รองรับการเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) จะได้ปรับปรุง (ร่าง) แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) ให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วน จากการเก็บรวบรวมข้อมูล ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง โดยนำข้อมูลดังกล่าวมาประกอบการจัดทำแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลฯ ให้สามารถกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนประเทศได้อย่างเหมาะสมและนำไปปฏิบัติได้ และตอบสนองต่อความต้องการของทุกภาคส่วนได้อย่างแท้จริงต่อไป