The 10th ASEAN International Conference หัวข้อ “Reshaping Trust in Government: Towards Open, Innovative and Digital Governments in Southeast Asia” วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 (กิจกรรมวันที่ 3)
เน้นเรื่องการยกระดับความเชื่อมั่นของประชาชนต่อภาครัฐ โดยมุ่งไปสู่การเป็นรัฐบาลที่ยืดหยุ่น คล่องตัว (Agile Government) ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางเพื่อส่งต่องานบริการภาครัฐที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและเกิดความโปร่งใส
ผู้เข้าร่วมประชุมฯ ประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน +9 จำนวน 9 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย กัมพูชา ลาว สิงคโปร์ บรูไน เกาหลีใต้ และไทย ผู้แทนจากทวีปเอเชีย จำนวน 3 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย ไต้หวัน และอิสราเอล ผู้แทนจากทวีปยุโรป จำนวน 3 ประเทศ ได้แก่ ฟินแลนด์ โปแลนด์ และสโลวีเนีย รวมทั้งผู้แทนจาก OECD โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมทั้งสิ้น จำนวน 78 คน
สรุปประเด็นสำคัญของงานในวันที่สาม ดังนี้
– การเป็นรัฐบาลที่ยืดหยุ่นและเปิดกว้างส่งผลให้ภาครัฐปรับตัวตอบสนองต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที และจะสามารถให้บริการภาครัฐได้ตรงตามความต้องการประชาชน นำไปสู่ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อภาครัฐ
– การเป็นรัฐบาลดิจิทัลต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการสร้างธรรมาภิบาลภาครัฐ คำนึงถึงความถูกต้องทางกฎหมายและความเป็นเหตุเป็นผลในการบริหารภาครัฐ เพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติจริงได้อย่างเหมาะสมทั้งในเชิงกฎหมายและหลักปฏิบัติ
บทเรียนจากประเทศที่เข้าร่วมเสวนา
– ประเทศเวียดนามมีเป้าหมายในการเข้าสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 จึงเน้นการเป็นรัฐบาลดิจิทัล
โดยเตรียมพร้อมทั้งกฎระเบียบ กฎหมาย การพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากร และการขับเคลื่อนประเทศด้วยข้อมูล
– ประเทศญี่ปุ่นได้จัดทำนโยบายสังคม 5.0 (Society 5.0) ที่ภาครัฐจะต้องทำงานอย่างยืดหยุ่น และประสานงานความร่วมมือหรือถ่ายโอนบทบาทภารกิจให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมดำเนินการให้บริการสาธารณะ ทั้งนี้ การวางเป้าหมายพัฒนาประเทศเพื่อสังคมและส่วนรวมจะช่วยดึงดูดภาคเอกชนให้เข้ามาร่วมดำเนินการและสร้างนวัตกรรมในการพัฒนาประเทศไปพร้อมๆ กัน
– ประเทศสิงคโปร์เห็นว่าการเป็นรัฐบาลที่ยืดหยุ่นและเปิดกว้างจะสามารถตอบสนองความต้องการ
ของประชาชนได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที ซึ่งจะนำไปสู่ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อภาครัฐ ทั้งนี้
การทำให้ภาครัฐมีประสิทธิภาพและคล่องตัว ประกอบด้วย การเข้าใจความต้องการและความคาดหวัง
ของประชาชน และการสร้างวัฒนธรรมที่เปิดโอกาสให้เกิดการกล้าคิด กล้าทำ และไม่ลงโทษจากความผิดพลาด
ที่เกิดจากการทดลองสิ่งใหม่ ๆ
– ประเทศออสเตรเลียเห็นว่าความคล่องตัวในภาครัฐเกิดจากการที่ทุกหน่วยงานมีวิสัยทัศน์ร่วมกันและ
มีความเชื่อมั่นในบุคลากร ทั้งนี้ การมุ่งสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลจะต้องตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน และจัดให้มีช่องทางออนไลน์เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมได้สะดวกยิ่งขึ้น
– ประเทศไทยใช้เทคโนโลยีและการบริหารข้อมูลในการให้บริการภาครัฐ โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เช่น การบริหารข้อมูลเพื่อหาจุดสมดุลในการรองรับผู้ป่วยโควิด การใช้เอกสารรับรองการเดินทางเข้าประเทศ
แบบอิเล็กทรอนิกส์ (Thailand Pass) เพื่อลดขั้นตอนการกรอกเอกสาร
– OECD เห็นว่าภาครัฐควรให้ความสำคัญกับการนำข้อมูลมาใช้ในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล โดยการกำกับดูแลข้อมูลที่ดีจะต้องมีจริยธรรมและจรรยาบรรณในการใช้ข้อมูล รวมถึงมีการเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะ