เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ได้ประชุมครั้งที่ 1/2565 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
ที่ประชุมได้พิจารณาวาระการประชุมดังนี้
1. การปรับปรุงแนวทางการแบ่งส่วนราชการภายในกรม เพื่อให้การมอบอำนาจการแบ่งส่วนราชการภายในกรมมีความยืดหยุ่นคล่องตัวมากขึ้น สะดวกในการอ้างอิงและนำไปปฏิบัติ
2. การปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดปัญหาการฟอกเงิน และประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะทรัพย์สินทางเทคโนโลยี
3. การปรับปรุงพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 เพื่อแก้ไขปรับปรุง พ.ร.บ. อำนวยความสะดวกฯ ให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัย ซึ่งจะทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการได้รับการบริการที่รวดเร็วขึ้น รวมทั้งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายภาครัฐ
4. การทบทวนกฎหมายและปรับปรุงระยะเวลาการพิจารณาอนุญาตตามพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 เพื่อขับเคลื่อนใน 2 เรื่อง ได้แก่ แนวทางการทบทวนกฎหมายเพื่อยกเลิกการอนุญาตหรือจัดให้มีมาตรการอื่นแทนการอนุญาต และแนวทางการดำเนินการตามมาตรฐานการให้บริการ เพื่อลดระยะเวลาการดำเนินงานด้านบริการลง ทั้งงานบริการที่มีผลกระทบสูงและงานบริการทั่วไป
5. รายงานการถอดบทเรียนการดำเนินการของส่วนราชการและจังหวัดในการรับมือการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563-2564 โดยได้สรุปผลกระทบและวิธีการตอบสนองของส่วนราชการ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดฯ และนำปัจจัยแห่งความสำเร็จไปต่อยอดในการบริหารงานและการให้บริการประชาชนในอนาคตต่อไป
ที่ประชุมรับทราบการดำเนินการที่สำคัญ ดังนี้
6. การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (นายปิยวัฒน์ ศิวรักษ์)
7. สรุปภาพรวมผลการปฏิรูประบบราชการตามแผนการปฏิรูปประเทศ ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน
8. แนวทางการขับเคลื่อนจังหวัดที่มีผลสัมฤทธิ์สูง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
9. วีดิทัศน์สรุป อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการขับเคลื่อนระบบราชการเพื่ออนาคต ซึ่งมีท่านสุวิทย์ เมษินทรีย์ เป็นประธาน ได้เชิญประธาน อ.ก.พ.ร. และ อ.กพม. ที่เกี่ยวข้องร่วมหารือวาระสำคัญเกี่ยวกับ “กรอบทิศทาง เป้าหมาย และแนวทางการพัฒนาระบบราชการไทยที่เป็นรูปธรรมในระยะต่อไป (Administrative Reform in Action)”
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นด้วยกับแนวทางในการแก้ไขปัญหาของระบบราชการไทยที่นำเสนอในวีดิทัศน์ ได้แก่ การลดบทบาทในการเป็นผู้ปฏิบัติ ปรับโครงสร้างและวิธีการทำงานให้ยืดหยุ่น สร้างโมเดลดึงคนรุ่นใหม่เข้าสู่ระบบ ภาครัฐต้องเป็นดิจิทัล เชื่อมโยงบริการได้ และแก้ไขปัญหาทุจริตให้ได้ ซึ่งทุกแนวทางควรกำหนดจุดเน้น และเป็น Guiding Principle เพื่อมีแผนการทำงานที่ชัดเจนและเกิดผลสำเร็จ
(รายละเอียดวิดิทัศน์ตาม Link : https://vimeo.com/680282615/f5031efb7b)