The 10th ASEAN International Conference หัวข้อ “Reshaping Trust in Government: Towards Open, Innovative and Digital Governments in Southeast Asia” วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 (กิจกรรมวันที่ 2)ได้มุ่งเน้นเรื่องการยกระดับความเชื่อมั่นของประชาชนต่อภาครัฐ ผ่านกลไกการขับเคลื่อนนวัตกรรมภาครัฐ (Public Sector Innovation) การเป็นรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) และการเป็นรัฐบาลเปิดและเชื่อมโยงกัน (Open and Connected Government)
ผู้เข้าร่วมประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน +9 จำนวน 9 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย กัมพูชา ลาว สิงคโปร์ บรูไน เกาหลีใต้ และไทย ผู้แทนจากทวีปเอเชีย จำนวน 3 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย ไต้หวัน และอิสราเอล ผู้แทนจากทวีปยุโรป จำนวน 3 ประเทศ ได้แก่ ฟินแลนด์ โปแลนด์ และสโลวีเนีย รวมทั้งผู้แทนจาก OECD โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมทั้งสิ้น จำนวน 70 คน
สรุปประเด็นสำคัญของงานในวันที่สอง ดังนี้
แนวทางการขับเคลื่อนนวัตกรรมภาครัฐ
– นวัตกรรมภาครัฐ (Public Sector Innovation) ต้องมีการสร้างกลไกขับเคลื่อน และทักษะของเจ้าหน้าที่ (capacity building) ให้เกิดความยืดหยุ่นในการทำงาน เพื่อให้ภาครัฐสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจคาดการณ์ได้
– การส่งเสริมเรื่องนวัตกรรมต้องส่งเสริมให้เป็นวัฒนธรรม และต้องวิเคราะห์ให้เห็นจุดอ่อน จุดแข็ง โดยทำเป็น Check List และเมื่อเห็นปัญหาแล้วจะนำไปสู่การออกแบบกลไกที่จะสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กรได้ ทั้งนี้ ต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดโดยทำในรูปแบบนโยบายสาธารณะจะเกิดการสนับสนุนในวงกว้าง เป็นการสร้างเครือข่าย และเกิดความยั่งยืน
– การเปลี่ยนผ่านบริการของรัฐบาลให้เป็นดิจิทัลต้องดูเรื่องความท้าทาย การออกนโยบายที่ถูกต้อง และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงไปสู่จุดหมายที่ต้องการ
แนวปฏิบัติของ OECD และเครื่องมือประเมินการเป็นรัฐบาลดิจิทัลและรัฐบาลเปิด
– OECD กำหนดตัวชี้วัดที่มุ่งเน้นความโปร่งใส การใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสม การมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อสร้างวัฒนธรรมการเป็นรัฐบาลเปิด ทั้งนี้ OECD ได้การส่งเสริม Open Government Dashboard ซึ่งเป็นตัวชี้วัดและมีประโยชน์ในการช่วยให้แต่ละประเทศเห็นถึงความก้าวหน้าของตนเองและสามารถเปรียบเทียบกับประเทศต่าง ๆ พร้อมทั้งสามารถดูข้อมูลการดำเนินการของแต่ละประเทศในเรื่องต่าง ๆ เช่น การเป็นรัฐบาลเปิดของแต่ละประเทศ การอ้างอิงระดับความเป็นประชาธิปไตย นวัตกรรม ความเป็นองค์รวม ความรับผิดชอบ และการมีส่วนร่วม
– OECD Digital Government Index (DGI) 2019 เป็นเครื่องมือในการประเมินการเปลี่ยนผ่านองค์กรจากรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ไปสู่รัฐบาลดิจิทัล ที่สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการปรับปรุงกระบวนการและพัฒนานวัตกรรมการทำงานเพื่อให้เกิดการบริการที่ตรงความต้องการกับประชาชนผู้รับบริการด้วย โดยประกอบด้วยปัจจัยการประเมิน จำนวน 6 ด้าน ได้แก่
(1) Digital by Design การวางกลยุทธ์และนโยบายในระดับประเทศที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล
(2) Data-driven การใช้ข้อมูลเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนภาครัฐ
(3) Government as a Platform รัฐบาลทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มกลางดิจิทัลในการทำงานอย่างบูรณาการ
(4) Open by Default มีการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ
(5) User Driven ให้ผู้ใช้บริการเป็นศูนย์กลางและให้มีส่วนร่วมในการออกแบบนโยบายและพัฒนาการให้บริการภาครัฐ
(6) Proactiveness การทำงานเชิงรุก
– The OECD Open, Useful, and re-usable data index หรือ OURdata Index เป็นดัชนีในการประเมินความพร้อมและจัดอันดับประเทศที่มีการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐที่เป็นประโยชน์และมีการสนับสนุนจากภาครัฐให้ประชาชนสามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ต่อได้ ซึ่งดัชนี OURdata สามารถใช้เป็นกรอบแนวทางให้กับภาครัฐในการออกแบบนโยบายการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐได้อย่างสมบูรณ์
บทเรียนของประเทศเครือข่าย ที่นำนวัตกรรมภาครัฐมาใช้
– ประเทศสิงคโปร์ มี Singpass ซึ่งเป็นนวัตกรรมภาครัฐที่มาจากการออกแบบร่วมกันของประชาชน เพื่อประโยชน์ของประชาชนตามแนวคิด Know Your Customer (KYC)
– ประเทศเมียนมา ได้ตระหนักถึงปัญหาและความท้าทายที่จะต้องพัฒนาภาครัฐไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล จึงทำการประเมินความพร้อมระดับการเปลี่ยนผ่านภาครัฐไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลที่สมบูรณ์ (Digital Maturity) พบว่าต้องเร่งขับเคลื่อนวาระการก้าวสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลผ่านการดำเนินการต่าง ๆ ได้แก่ การปรับปรุงกฎหมายให้รองรับการเป็นรัฐบาลดิจิทัล การออก e-Governance Master Plan (2022-2030) การก่อตั้งศูนย์ข้อมูล e-Government และการบูรณาการโครงการด้านดิจิทัลเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนไปสู่รัฐบาลดิจิทัล
– ประเทศออสเตรเลียและสโลวีเนีย ได้จัดทำ Innovative Capacity เพื่อสร้าง Innovation Skill ในภาครัฐ