ข่าวสาร ก.พ.ร.

การขับเคลื่อนส่งเสริมการนำงานวิจัยเกี่ยวกับการจัดการเศษวัสดุการเกษตร เพื่อแก้ปัญหาลดฝุ่นควัน PM2.5 จากการเผาในภาคการเกษตร”

9 ก.พ. 2565
0

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 สำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) จัดประชุมสัมมนาออน์ไลน์เรื่อง “การขับเคลื่อนส่งเสริมการนำงานวิจัยเกี่ยวกับการจัดการเศษวัสดุการเกษตร เพื่อแก้ปัญหาลดฝุ่นควัน PM2.5 จากการเผาในภาคการเกษตร” โดยมี ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) (รศ.ดร. ปัทมาวดี โพชนุกูล) และรองเลขาธิการ ก.พ.ร. (นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข) กล่าวเปิดการสัมมนา และประธาน อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการส่งเสริมการบริหารงานภาครัฐระบบเปิดและการมีส่วนร่วม (นายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์) กล่าวถึงภาพรวมและแนวคิดของการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์เพื่อลดการเผาเศษวัสดุในพื้นที่เกษตร สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

1. งานวิจัยของ สกสว. และการดำเนินงานของสำนักงาน ก.พ.ร. มีการทำงานที่ช่วยเสริมและเติมเต็มการทำงานระหว่างกัน โดย สกสว. ได้เข้ามาช่วยเสริมการสร้างระบบนิเวศภาครัฐระบบเปิดและการมีส่วนร่วมอย่างมีความหมาย (Open Government and Meaningful Participation : OG & MP) เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) โดยเฉพาะองค์ประกอบด้านการสนับสนุนองค์ความรู้ และการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและพื้นที่ต่าง ๆ สามารถนำไปใช้ประโยชน์เพื่อลดการเผาเศษวัสดุในพื้นที่เกษตรในพื้นที่ได้

2. ในปี พ.ศ. 2565 สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ดำเนินการสร้างระบบนิเวศภาครัฐระบบเปิดและการมีส่วนร่วมอย่างมีความหมายอีก 2 เรื่อง ได้แก่ การจัดทำงบประมาณแบบมีส่วนร่วม (Participatory Budgeting) และ การเปิดเผยข้อมูลเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสถานศึกษาอย่างยั่งยืน (School Open Data) งานวิจัยของ สกสว. จะมาช่วยเสริมการทำงานในทั้งสองเรื่องนี้ได้ และจะทำให้เกิดเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ทำวิจัย ผู้ใช้ประโยชน์จากงานวิจัย หน่วยงานขับเคลื่อนเชิงนโยบาย และระดับพื้นที่ เพื่อหาแนวทางในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. การสร้างภาครัฐระบบเปิดและการมีส่วนร่วมอย่างมีความหมาย เป็นการดำเนินงานร่วมกันของภาคีเครือข่าย ทั้งระหว่างหน่วยงานภาครัฐด้วยกัน ภาครัฐกับภาคเอกชน ภาครัฐกับชุมชน/ประชาชน โดยมีการดำเนินการขับเคลื่อนการทำงานทั้งในระดับส่วนกลางและระดับพื้นที่ ก่อให้เกิดนวัตกรรมการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน (Public Private People Partnership) ในเรื่องต่างๆ เช่น การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กฎระเบียบ/กฎหมาย แรงจูงใจด้านเศรษฐศาสตร์ เป็นต้น

4. ผลจากการสัมมนาในวันนี้ได้ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จากการเผาในพื้นที่ภาคการเกษตร ดังนี้

(1) พัฒนาเครื่องจักรและอุปกรณ์ในการเก็บอ้อยของไทย เช่น พัฒนารถตัดอ้อย รถเก็บใบอ้อย อุปกรณ์พลิกกลบใบอ้อย เครื่องตัดอ้อยขนาดเล็ก ให้มีราคาถูกและมีประสิทธิภาพ
(2) ส่งเสริมการการเพิ่มมูลค่าจากใบอ้อย เช่น นำไปผลิตเป็นพลังงานชีวมวล ผลิตอาหารสัตว์ ผลิตแผ่นติดแผล ผลิตกรดไขมัน โอเมก้า 3 นำใบอ้อยไปใช้ในการผลิตสิ่งทอ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หมวก ฯลฯ
(3) เสริมสร้างแรงจูงใจเชิงบวก เช่น การสร้างรายได้แก่เกษตรกรหากไม่มีการเผาในพื้นที่การเกษตร รับซื้ออ้อยสดในราคาดีกว่าอ้อยไฟไหม้

(4) ส่งเสริม smart farming เช่น การจัดรูปแปลงให้มีขนาดใหญ่เพื่อให้รถตัดเข้าถึงได้ การลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังมีปัญหาอุปสรรคบางประการ เช่น เครื่องจักรในการตัดอ้อยมีราคาแพง ปริมาณการรับซื้อพลังงานชีวมวลมีจำกัด การรับซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูปจากใบอ้อยมีจำนวนน้อย การปรับรูปแปลงให้มีขนาดใหญ่โดยการรวมแปลงจากเกษตรกรรายย่อยทำได้ยาก การจัดเก็บใบอ้อยจำนวนมากมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดไฟไหม้ ดังนั้น แนวทางในการแก้ไขปัญหาจะต้องมองในภาพรวมทั้งระบบ เพื่อให้สามารถแก้ไขได้อย่างครบวงจร

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้กกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สำนักงาน ก.พ.ร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ ก.พ.ร. ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ ก.พ.ร. ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ ก.พ.ร. ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ ก.พ.ร. ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า