ข่าวสาร ก.พ.ร.

สำนักงาน ก.พ.ร. จัดการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบราชการเกี่ยวกับการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล ครั้งที่ 4/2564 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

26 ส.ค. 2564
0

เมื่อวันอังคารที่ 25 สิงหาคม 2564 สำนักงาน ก.พ.ร. ได้จัดการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบราชการเกี่ยวกับการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล ครั้งที่ 4/2564 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล ประธานอนุกรรมการฯ เป็นประธานการประชุม

1. ที่ประชุมมีมติรับทราบ :

1.1 แนวทางการพัฒนาระบบรองรับการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล หรือ Digital ID ด้วยการพัฒนาระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าทางดิจิทัล (Face Verification Service – FVS) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2564

1.2 การขับเคลื่อนการให้บริการประชาชนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาฯ FVS ว่า สามารถดำเนินการพัฒนาในรูปแบบ sandbox กับบางหน่วยงานก่อนได้เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ควบคู่กับการดำเนินการพัฒนาในรูปแบบปกติของกรมการปกครอง โดยสำนักงาน ก.ล.ต. สามารถร่วมพัฒนาในรูปแบบ sandbox ได้ เนื่องจากมีงานบริการที่จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้รับบริการที่ได้รับการร้องขอ เช่น การประชุมผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวต้องพิจารณาถึงความพร้อมทางเทคโนโลยีในการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันของหน่วยงานและกรมการปกครอง

2. ที่ประชุมได้พิจารณาให้ความเห็นชอบแนวทางการดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล จำนวน 3 เรื่อง ดังนี้

2.1 กรอบการดำเนินการและแนวทางการขับเคลื่อนการให้บริการประชาชนผ่านระบบ อิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ทั้งที่เป็นการต่อยอดจากปัจจุบัน เช่น การพัฒนางานบริการบนระบบ Citizen Portal และ Biz Portal รวมทั้งเป็นการเชื่อมโยงจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกลาง เช่น การพัฒนางานบริการให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย โดยอาศัยการเชื่อมโยงระบบ Digital ID เพื่ออำนวยความสะดวก พร้อมทั้งเห็นชอบในหลักการการแต่งตั้งคณะทำงาน 12 คณะ เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนและติดตาม Agenda ทั้งหมด โดยมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมว่า ควรมีคณะทำงานกลางอีกชุดหนึ่ง เพื่อทำหน้าที่ออกแบบสถาปัตยกรรมการพัฒนาให้เชื่อมโยงกันทั้ง 12 เรื่อง เนื่องจากบางเรื่องจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานกลางที่เชื่อมโยงและสนับสนุนกับ Agenda อื่น เช่น การพัฒนา Digital ID หรือ One ID One SMEs สำหรับองค์ประกอบของคณะทำงานควรมีผู้ใช้งาน (User) ที่เป็นภาคเอกชนมาร่วมสะท้อนประเด็นหรือเรื่องสำคัญที่ควรปรับปรุง นอกจากนี้ควรมีการจัดทำระบบกลางเพื่อสนับสนุน เช่น Legal Requirement /การปรับแบบฟอร์มเพื่อใช้ขัอมูลร่วมกัน / Standard flow /IAL risk เป็นต้น

2.2 แผนการสื่อสารสร้างการรับรู้การขับเคลื่อนงานบริการภาครัฐไปสู่รูปแบบดิจิทัล โดยมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมว่าควรให้ความสำคัญกับทุกกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพการเข้าถึงเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน เพื่อให้เกิดความเข้าใจในเนื้อหาการสื่อสารได้ชัดเจน รวมทั้งสามารถสร้างเครือข่ายกับหน่วยงานอื่นสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ และใช้ช่องทาง influencer ที่มีผู้ติดตามอยู่จำนวนมากแล้วได้

2.3 แนวทางการส่งเสริมและพัฒนาส่วนราชการเพื่อขยายผลการออกเอกสารหลักฐานผ่านระบบดิจิทัล เพื่อผลักดันการแก้ไขปัญหาทั้งการปรับปรุงกระบวนการ กฎหมาย และประเด็นทางเทคนิคที่เป็นอุปสรรค เช่น ค่าใช้จ่ายใบรับรอง CA เป็นต้น รวมทั้งให้มีการประเมินความพร้อมของหน่วยงานสำหรับการออกเอกสารหลักฐานผ่านระบบดิจิทัล เพื่อพิจารณาแนวทางหรือวิธีการสนับสนุนหน่วยงานในการออกเอกสารหลักฐานผ่านระบบดิจิทัลที่เหมาะสมต่อไป

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้กกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สำนักงาน ก.พ.ร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ ก.พ.ร. ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ ก.พ.ร. ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ ก.พ.ร. ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ ก.พ.ร. ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า