เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2564 นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการ ก.พ.ร. เป็นประธานกล่าวเปิดการอบรม ได้กล่าวถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีการเป็นข้าราชการ ต้องมีคุณธรรม จริยธรรม การกระทำทุจริตนั้นถือเป็นการทำลายความเชื่อมั่นในระบบราชการ และทำลายศักดิ์ศรีของข้าราชการ จึงควรต้องมีการเรียนรู้และเท่าทันการกระทำทุจริตและผลประโยชน์ทับซ้อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น อีกทั้งมีความเชื่อมั่นว่าข้าราชการรุ่นใหม่ต้องเก่งและดีกว่าคนรุ่นเก่า ประเทศจึงจะพัฒนาต่อไปได้
– ดร. มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้าน คอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ได้กล่าวถึงผลประโยชน์ทับซ้อนในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการป้องกัน สรุปได้ดังนี้
– ประเด็นสำคัญในเรื่องการทุจริต คือ การที่ข้าราชการรู้เห็นในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนหรือทุจริต แต่มองข้ามและทนอยู่กับสิ่งนั้น โดยไม่กล้าให้ข้อมูลเพราะเกรงว่าจะได้รับผลกระทบต่อตนเอง
– หน่วยงานที่ข้าราชการ “ให้ข้อมูล” เรื่องการทุจริตมาก อาจไม่ได้แปลว่าหน่วยงานนั้นมีการทุจริตมากเสมอไป แต่เป็นเพราะว่าข้าราชการในหน่วยงานนั้นให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูล กล้าพูด มีความตื่นตัว และร่วมต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน
– ตัวอย่างที่ดีในการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ อาทิ ระบบ eMENSCR ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เปิดเผยไฟล์ข้อมูลในรูปแบบที่เป็นประโยชน์ ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ง่าย
การหาทางออกในการแก้ปัญหาการทุจริตและผลประโยชน์ทับซ้อน
– ต้องมีกรอบกติกาที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และเปิดเผยข้อมูลให้บุคคลภายนอกสามารถตรวจสอบได้
– การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริการภาครัฐ ปรับปรุงการให้บริการเป็นแบบ e-Service เพื่อลดการใช้ดุลพินิจ
– ผู้นำองค์กรต้องแสดงความจริงจังในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน และปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี
– Mr. Jeroen Michels, Policy Analyst, Public Sector Integrity Division, OECD ได้กล่าวถึงกรณีศึกษาการทุจริตของต่างประเทศรวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาการทุจริต
– การแก้ไขปัญหาการทุจริตต้องแก้ไขในภาพรวม และต้องอาศัยความร่วมมือกับหลายฝ่าย
– ข้อเสนอแนะของ OECD เกี่ยวกับความซื่อตรงในภาครัฐ (OECD Recommendation on Public Integrity) ประกอบด้วย 3 ด้าน ได้แก่ 1) ระบบความซื่อตรงที่สอดคล้อง เชื่อมโยงกัน และครอบคลุมทุกมิติ กล่าวคือ มีการพัฒนากรอบการติดตามและประเมินผล ปรับปรุงภารกิจด้านการป้องกันและการดำเนินคดีอาญา ตลอดจนเสริมสร้างบทบาทขององค์กรภาคประชาสังคม 2) การสร้างวัฒนธรรมความซื่อตรงในภาครัฐ และ 3) ความรับผิดชอบที่มีประสิทธิภาพในการมีส่วนร่วม การบริหารความเสี่ยง การกำกับดูแล และบทลงโทษ
– เครื่องมือ “OECD Public Integrity Maturity Models” สามารถนำไปใช้ในการประเมินองค์กรของตนเองเพื่อให้เห็นจุดแข็ง และเพื่อพัฒนาจุดอ่อนขององค์กรได้
–
ตัวอย่างที่ดีจากต่างประเทศ เช่น
– ประเทศฝรั่งเศส: ประชาชนสามารถตรวจสอบทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่รัฐผ่านทางออนไลน์ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
– ประเทศออสเตรีย: ประชาชนสามารถแจ้งการทุจริตคอร์รัปชันผ่านช่องทางออนไลน์แบบไม่เปิดเผยตัวตนได้
– การที่ภาครัฐจะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ จะช่วยลดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันได้ โดยต้องทำงานแบบบูรณาการ ทั้งในเรื่องการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานและการดูแลความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตระดับกระทรวง และผู้แทนจากสำนักงาน ก.พ.ร. เข้าร่วมการอบรม จำนวน 103 คน