ข่าวสาร ก.พ.ร.

เลขาธิการ ก.พ.ร. เป็นประธานในการประชุมรับฟังคิดเห็นเกี่ยวกับเป้าหมายการดำเนินงานของหน่วยงานด้านน้ำตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

25 พ.ค. 2564
0

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 เวลา 13.30 น. ท่านเลขาธิการ ก.พ.ร. ได้เป็นประธานในการประชุมรับฟังคิดเห็นเกี่ยวกับเป้าหมายการดำเนินงานของหน่วยงานด้านน้ำตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อประกอบการพิจารณาของ อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการทบทวนบทบาทภารกิจและปรับปรุงโครงสร้างของส่วนราชการ ในการปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของกรมทรัพยากรน้ำ โดยผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย เลขาธิการ สทนช. อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล (นายกุศล โชติรัตน์) ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกระจายอำนาจฯ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผอ.สำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน ผอ.กลุ่มงานส่งเสริมการกระจายอำนาจและการจัดทำงบประมาณเงินอุดหนุน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และ นางนันทนา ธรรมสโรช รองเลขาธิการ ก.พ.ร. สรุปผลจากการประชุม ได้ดังนี้

1. เป้าหมายและหน่วยงานรับผิดชอบการดำเนินงานตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) เป็นกรอบกว้าง ๆ ในการดำเนินงาน เนื่องจากอยู่ระหว่างการเสนอพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ในแต่ละกลยุทธ์จึงกำหนดให้มีหลายหน่วยงานร่วมรับผิดชอบ รวมทั้งการกำหนดนิยามพื้นที่ และขอบเขตความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานในพื้นที่ลุ่มน้ำ พื้นที่น้ำนอกเขตชลประทาน ยังไม่ชัดเจน ส่งผลทำให้เกิดความซ้ำซ้อนในภารกิจและการดำเนินงานของส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) อยู่ระหว่างการเร่งรัดจัดทำนิยาม ขอบเขตพื้นที่ความรับผิดชอบ และผังน้ำ เสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง และคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) พิจารณา โดยหากแล้วเสร็จจึงจะสามารถกำหนดบทบาท ภารกิจ และปริมาณงานของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศได้อย่างชัดเจน

2. แนวทางการบริหารจัดการน้ำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และบทบาทของ อปท. ตามร่าง พ.ร.บ. กระจายอำนาจไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับใหม่) นั้น อยู่ระหว่างการปรับปรุงตามข้อสังเกตของหลายหน่วยงาน เช่น การปรับแก้ไขขนาดพื้นที่โครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่มีความจุน้ำ จากเดิม 2 ล้าน ลบ.ม. ปรับลดเป็น 1 ล้าน ลบ.ม. เป็นต้น ที่ผ่านมาปัญหาสำคัญหนึ่งของการถ่ายโอน คือ อปท. หลาย ๆ แห่งไม่มีความเชี่ยวชาญที่จะรับผิดชอบงานด้านพัฒนาแหล่งน้ำ ดังนั้น แม้จะได้ถ่ายโอนงานให้ อปท. แล้วส่วนราชการยังคงมีหน้าที่ในการช่วยเหลือ สนับสนุน ให้คำแนะนำและคำปรึกษาทางเทคนิค วิชาการ เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติ และสนับสนุนทางวิชาการให้กับ อปท. ต่อไป หากกรมทรัพยากรน้ำ มีส่วนช่วยด้านวิชาการในการพัฒนาแหล่งน้ำจะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรปกครองท้องถิ่นได้เป็นอย่างมาก

3. ตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ได้กำหนดบทบาทและเป้าหมายของกรมทรัพยากรน้ำในฐานะหน่วยงานหลักรับผิดชอบงานการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแหล่งน้ำและระบบกระจายน้ำให้สามารถตอบสนองความต้องการใช้น้ำทั้งภาคเกษตร ภาคการผลิตและการอุปโภคบริโภคให้เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น จึงจะใช้เป้าหมายการดำเนินงานในภารกิจนี้ในการขอทบทวนการจัดตั้งกองในการปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการกรมทรัพยากรน้ำ

ทั้งนี้ เมื่อ สทนช. เสนอ กนช. ได้พิจารณากำหนดบทบาทและเป้าหมายของกรมทรัพยากรน้ำที่รับผิดชอบงานการพัฒนาแหล่งน้ำและระบบกระจายน้ำเพื่อจัดหาน้ำในพื้นที่เกสรน้ำฝน ตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ในช่วง 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) ได้อย่างอย่างชัดเจนแล้ว จะเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาการปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของกรมทรัพยากรน้ำต่อไป

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้กกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สำนักงาน ก.พ.ร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ ก.พ.ร. ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ ก.พ.ร. ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ ก.พ.ร. ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ ก.พ.ร. ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า