เมื่อวันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2564 เวลา 13.30 น. อ.ก.พ.ร.เกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาระบบการบริหารราชการในส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น ได้ประชุมครั้งที่ 3/2564 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ Application ZOOM โดยมีนายไมตรี อินทุสุต เป็นประธาน พร้อมด้วย รองเลขาธิการ ก.พ.ร. (นางสาวสุรุ่งลักษณ์ เมฆะอำนวยชัย) เป็นรองประธาน และมีผู้เข้าร่วมประชุม คือ รองเลขาธิการ ก.พ.ร. (นางอารีพันธ์ เจริญสุข)
สรุปประเด็นการประชุม ดังนี้
1. การพัฒนารูปแบบการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารราชการในจังหวัดให้มีการทำงานที่มีผลสัมฤทธิ์สูงเห็นชอบปรับแผนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เนื่องจากในขณะนี้ทุกจังหวัดกำลังเผชิญกับปัญหากับสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และจังหวัดได้ดำเนินการป้องกัน และแก้ไขปัญหาดังกล่าวเฉพาะหน้าอยู่แล้ว จึงเห็นควรให้ทุกจังหวัดนำเรื่องนี้มาถอดบทเรียนการบริหารจัดการในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อเป็นรูปแบบการบริหารงานให้จังหวัดเกิดผลสัมฤทธิ์สูง โดยให้ทุกจังหวัดเสนอภาพการทำงานตามแบบรายงาน (Template) การถอดบทเรียนการบริหารจัดการในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ทั้งนี้ มอบหมายให้ สป.มท. คัดเลือกจังหวัดที่สามารถนำมาใช้เป็นตัวแบบในการถอดบทเรียนการบริหารจัดการในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามแผนยุทธศาสตร์ของ ศบค. อย่างน้อย 10 จังหวัด เพื่อมาเป็นตัวอย่างและนำเสนอผลลัพธ์เพื่อตอบโจทย์ของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศต่อไป
2. การพัฒนากลไกการทำงานที่เน้นการ บูรณาการเชื่อมโยงการทำงานของหน่วยงานในพื้นที่ (1 ประเด็นนโยบายสำคัญ – กรม : 2 จังหวัด)
ให้นำประเด็นการพัฒนาการฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กับการแก้ปัญหาฝุ่นละอองฯ เป็นประเด็นสำคัญที่จังหวัด HPP จะนำมาขับเคลื่อนให้เกิดผลก่อน ซึ่งการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองฯ จะดำเนินการร่วมกับ อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการส่งเสริมการบริหารภาครัฐระบบเปิดและการมีส่วนร่วม โดย อ.ก.พ.ร. ภูมิภาค ฯ จะมุ่งเน้นร่วมหาแนวทางแก้ไขในเรื่องปัญหา
การบูรณาการระหว่างหน่วยงาน และอุปสรรคทางด้านงบประมาณ
3. รายงานความก้าวหน้าในการแก้ไขข้อจำกัดในการบริหารงานจังหวัดให้มีการทำงานที่มีผลสัมฤทธิ์สูง เรื่อง การโอนสินทรัพย์ที่เกิดจากงบประมาณของจังหวัด ของคณะทำงานพิจารณาศึกษาแนวทางจัดทำงบประมาณและการบริหารสินทรัพย์ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดให้เกิดความคล่องตัว โดยมี นางสาวอรนุช ไวนุสิทธิ์ เป็นประธาน ได้เสนอแนวทางการปรับปรุงกระบวนการบริหารสินทรัพย์ที่เกิดจากงบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดให้มีความคล่องตัว ดังนี้
กลุ่ม 1 สะสาง : กรณีสินทรัพย์ที่คงค้างสะสม โดยในระดับจังหวัด สป.มท. จะได้ดำเนินการแจ้งให้แต่ละจังหวัดจัดตั้งคณะทำงานสะสางสินทรัพย์ และระดับนโยบาย เสนอให้ ก.บ.ภ. พิจารณา นำเงินเหลือจ่ายและงบบริหารจัดการของจังหวัดมาใช้บำรุงรักษาสินทรัพย์ระหว่างรอการโอนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มที่ 2 สร้างระบบใหม่ : กรณีสินทรัพย์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต (สร้างระบบใหม่) เสนอแนวทางแก้ปัญหาเชิงระบบ สร้างระบบใหม่ให้มีการบริหารสินทรัพย์ที่เกิดจากงบประมาณของจังหวัด ตั้งแต่ต้นทาง-กลางทาง-ปลายทาง ดังนี้
1) สำนักงบประมาณ กำหนดให้มีการระบุวัตถุประสงค์ที่จะมอบสินทรัพย์ให้แก่หน่วยงานในจังหวัดตั้งต้นในนตอนการขอตั้งงบประมาณ ซึ่งจะปรากฏอยู่ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ส่งผลให้หน่วยงานของรัฐเจ้าของงบประมาณสามารถจัดหาและโอนพัสดุให้หน่วยงานนั้นได้ตามที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ ควรพิจารณาถึงความจำเป็นในการตั้งงบประมาณเพื่อบำรุงรักษาสินทรัพย์ที่ได้รับให้แก่ส่วนราชการ
2) กรมบัญชีกลาง หารือกับผู้บริหารในการดำเนินการพัฒนาระบบบันทึกข้อมูลสินทรัพย์ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ให้สอดคล้องกับการโอนสินทรัพย์ดังกล่าว เพื่อลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน
3) ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดในการบริหารสินทรัพย์ ควรมีการหารือกับส่วนราชการ เพื่อกำหนดแนวทางว่า สินทรัพย์รูปแบบใดที่สามารถรับโอนได้ทันที หรือสินทรัพย์รูปแบบใดที่ต้องมีการหารือร่วมกันที่จะนำไปกำหนดใน ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
4) จังหวัดและกลุ่มจังหวัดควรมีการติดตามการใช้ประโยชน์ที่เกิดจากสินทรัพย์ที่ได้โอนให้แก่ส่วนราชการไปด้วย
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่า ควรหารือในรายละเอียดของการดำเนินการ โดยรับฟังความเห็นของผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความชัดเจน และนำเสนอผู้มีอำนาจในเรื่องที่เกี่ยวข้อง พิจารณาเห็นชอบ เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติ และประสานเชื่อมโยงกับ อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการปรับปรุงระบบการเงินและงบประมาณ และนำแนวทางที่ได้จากการหารือ เสนอ ก.บ.ภ. เพื่อพิจารณาต่อไป