ข่าวสาร ก.พ.ร.

สำนักงาน ก.พ.ร. จัดการประชุม เรื่อง “การรายงานผลการดำเนินการตามแนวทางการปรับปรุงสภาพแวดล้อมสำหรับการประกอบธุรกิจในประเทศไทยของธนาคารโลก (Doing Business)

26 มี.ค. 2564
0

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 สำนักงาน ก.พ.ร. จัดการประชุม เรื่อง “การรายงานผลการดำเนินการตามแนวทางการปรับปรุงสภาพแวดล้อมสำหรับการประกอบธุรกิจในประเทศไทยของธนาคารโลก (Doing Business) และ 10 ข้อเสนอ เพื่อยกระดับประเทศไทยสู่ 10 อันดับประเทศที่ประกอบธุรกิจได้ง่ายที่สุด (Ten for Ten)” ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยนางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการ ก.พ.ร. และผู้บริหารผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม การประชุมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการของหน่วยงานในการยกระดับคะแนน Doing Business ในแต่ละด้าน และการดำเนินการ Ten for Ten ซึ่งพบว่า การขับเคลื่อน Doing Business ในหลายด้านมีแนวโน้มที่สามารถยกระดับคะแนนได้สูงขึ้น ได้แก่

– ด้านการเริ่มต้นธุรกิจ ที่มีการลดค่าธรรมเนียมในการใช้ ระบบ e-Registration ลงร้อยละ 50 รวมทั้งการนำ e-KYC มาใช้ในการยืนยันตัวตน และการนำ AI มาใช้ ในการจองชื่อบริษัท

– การขออนุญาตก่อสร้าง สามารถค้นหาข้อมูลการเจาะสำรวจดิน (Soil boring test) เพื่อใช้ในการวางแผนการก่อสร้างได้จาก Website ของกรมโยธาธิการและผังเมือง

– ด้านการขอใช้ไฟฟ้า ยกเลิกการเก็บหลักประกันการใช้ไฟฟ้า สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 และ 2 และไม่มีคค่าขอใช้ไฟฟ้า กรณีใช้ผู้รับจ้างติดตั้งสายภายในที่ขึ้นทะเบียนกับ กฟน.

– ด้านการจดทะเบียนทรัพย์สิน ที่ที่มีการพัฒนาระบบ e-QLand เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถสอบถามค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนหรือการโอน โดยไม่จำเป็นต้องมาที่สำนักงานที่ดิน

– ด้านการได้รับสินเชื่อ พัฒนาระบบค้นหาข้อมูลหลักประกัน ให้สามารถตรวจค้นข้อมูลการใช้ทรัพย์สินเป็นหลักประกันการชำระหนี้ทางอิเล็กทรอนิกส์ จากเลขทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ ข้อมูลทรัพย์ ข้อมูลลูกหนี้ และข้อมูลผู้ให้หลักประกัน

– ด้านการคุ้มครองผู้ลงทุนเสียงข้างน้อย ยกระดับการคุ้มครองผุ้ลงทุนเสียงข้างน้อยด้วยปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับประธานกรรมการ (Chair) และผู้บริหารสูงสุด (CEO) ของบริษัทจดทะเบียนต้องไม่เป็นบุคคลเดียวกันให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และผลักดันการแก้ไข พ.ร.บ. บริษัทมหาชนฯ ให้รองรับการส่งเอกสารของบริษัทผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-meeting, e-delivery และ e-proxy) เพื่อตอบสนองความต้องการยุคดิจิทัล

– ด้านการชำระภาษี ปรับปรุงแบบฟอร์มการกรอกภาษีให้กรอกง่ายขึ้น มีการนำระบบดิจิทัลมาใช้ในการให้บริการตลอดกระบวนงาน และนำข้อมูลภาษีมาใช้ในจัดทำการแจ้งเตือน และป้องการความผิดพลาดที่เกิดจากการยื่นภาษีผิด นอกจากนี้รวมทั้งการขยายบริการรับชำระเงินกองทุนประกันสังคมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment)

– ด้านการค้าระหว่างประเทศ นำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้การยื่นเอกสารและการชำระภาษี และนำเทคโนโลยี x-Ray มาใช้ในการตรวจสอบสินค้าโดยไม่ต้องเปิดตู้คอนเทนเนอร์ การพัฒนาระบบ NSW ให้สามารถใช้ได้ 100% และมีมาตรการป้องกัน ที่ไม่อนุญาตให้หน่วยงานที่ไม่เชื่อมระบบ NSW กำหนดพิกัดสินค้าควบคุม ทำให้สามารถใช้ระบบ NSW ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

– ด้านการบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง ยกระดับการให้บริการทางออนไลน์ให้มีความมั่นคงปลอดภัย กำหนดให้มีขั้นตอนการไปพิสูจน์ตัวตน (Identity Proofing) ของบุคคลที่ลงทะเบียน ในระบบยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 20 ตรี ทางออนไลน์

– ด้านการแก้ปัญหาการล้มละลาย เปิดให้บริการระบบลงทะเบียนซื้อทรัพย์ล่วงหน้า เพื่อให้ผู้สนใจสามารถค้นหาทรัพย์ที่ทำการขายทอดตลาดตรวจสอบสถานะทรัพย์ที่ทำการขายทอดตลาด และลงทะเบียนซื้อทรัพย์ล่วงหน้า

ภายหลังจากรับฟังการชี้แจงความก้าวหน้าการดำเนินการของหน่วยงานต่าง ๆ แล้ว รองนายกรัฐมนตรีได้มีข้อเสนอแนะให้ทุกหน่วยงานเร่งปรับปรุงงานบริการภาครัฐให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และลดค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นปัจจัยในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากผู้รับบริการโดยการจัดประชุมกลุ่มย่อยของผู้รับบริการในแต่ละด้านเพื่อหาแนวทางการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน พร้อมทั้งให้หน่วยงานกำหนดเป้าหมายอันดับในอนาคตโดยพิจารณาถึงการพัฒนาของประเทศต่าง ๆ ด้วย

กลุ่มงานการประชาสัมพันธ์ / จัดทำ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้กกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สำนักงาน ก.พ.ร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ ก.พ.ร. ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ ก.พ.ร. ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ ก.พ.ร. ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ ก.พ.ร. ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า