สำนักงาน ก.พ.ร. ได้นำเสนอข้อมูลที่มาและกรอบแนวคิดของการพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศที่ปัจจุบันมีกระบวนการนำเข้าส่งออกเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วน มีขั้นตอนกระบวนการและการใช้เอกสารต่าง ๆ มากมาย สู่แนวคิดการพัฒนาให้กระบวนการต่าง ๆ อยู่ในแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลที่สามารถดำเนินการทุกขั้นตอนได้บนระบบออนไลน์ และจะถูกนำไปเชื่อมต่อกับระบบ NSW ของต่างประเทศ โดยยกตัวอย่างข้อดีที่จะเกิดขึ้นกับภาคการเงินการธนาคาร คือ การแลกเปลี่ยนข้อมูลในแพลตฟอร์มที่ทุกฝ่ายได้รับข้อมูลที่มาจากแหล่งเดียวกันจะช่วยสร้างความมั่นใจในให้ธนาคารมั่นใจได้ว่ามีคำสั่งซื้อจริง ซึ่งจะส่งผลให้กระบวนการดำเนินการทางธุรกิจง่ายขึ้น การซื้อขายแบบ B2B มีศักยภาพมากขึ้น ลดความซ้ำซ้อนของเอกสาร ลดระยะเวลาในการทำงานได้ดี ข้อมูลมีความแม่นยำ เกิดความโปร่งใสและปลอดภัย อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสให้กับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเข้าถึงแหล่งเงินทุนต้นทุนได้ง่ายขึ้นในต้นทุนที่ต่ำลง ช่วยป้องกันการคดโกง และการปลอมแปลงเอกสาร
สำหรับแผนการดำเนินโครงการระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2565 แบ่งได้ 3 ส่วน ได้แก่ 1) การพัฒนาระบบต้นแบบ 2) การส่งเสริมการสร้างมาตรฐานการเชื่อมโยงในระดับสากล และ 3) การศึกษาข้อมูลรูปแบบธุรกิจและการหาผู้ลงทุนการพัฒนาระบบในอนาคต โดยผลลัพธ์ที่คาดว่าจะเป็น Key Deliverables ที่จะเกิดขึ้นได้ภายในปี พ.ศ. 2565 ในช่วงที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค คือ ระบบ NDTP ของประเทศไทยจะสามารถดำเนินงานได้ โดยเลือกเชื่อมต่อกับประเทศคู่ค้าอย่างน้อย 1 ประเทศ เพื่อเป็นตัวอย่างการดำเนินงานของระบบ และกระทรวงพาณิชย์สามารถนำเสนอเป็น Show case ด้านการค้าการลงทุนของประเทศไทย ในการผลักดันให้ระบบแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศของไทยและประเทศคู่ค้าสามารถดำเนินการได้เป็นกลุ่มประเทศต้น ๆ ของอาเซียนและเอเปคต่อไป