รองอธิบดีกรมการกงสุล ชี้แจงว่ากรมการกงสุลได้พัฒนาการให้บริการประชาชน และชาวต่างประเทศที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านระบบ e-Service อย่างต่อเนื่อง และได้มีการขยายการให้บริการที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว โดยกรมการกงสุลได้ชี้แจงถึงการพัฒนางานบริการตามตัวชี้วัดที่สำคัญในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 อาทิ
– การลดเวลาการให้บริการรับคำร้องหนังสือเดินทางแก่ประชาชน ซึ่งในปัจจุบันทางกรมได้ให้บริการยื่นจองคิวทำหนังสือเดินทางผ่านระบบ Online รวมถึงเพิ่มช่องทางการให้บริการผ่านตู้ทำหนังสือเดินทางอัตโนมัติ ซึ่งเป็นพัฒนาการล่าสุดเพื่ออํานวยความสะดวกแก่ประชาชนในการขอทำหนังสือเดินทางด้วย โดยสามารถลดระยะเวลาการให้บริการจาก 12 นาที เหลือเพียง 8 นาที
– การขยายการใช้งานระบบตรวจลงตราอิเล็กทรอนิกส์ (e-Visa) ซึ่งเป็นการขยายการใช้งานระบบตรวจลงตราอิเล็กทรอนิกส์ ใน 6 สำนักงานทั่วโลก
– ระบบลงทะเบียนขอรับหนังสือรับรองการเดินทาง (Certificate of Entry : COE) สำหรับการเดินทางเข้าประเทศในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตามคำสั่ง ศบค. ที่ได้มีการเปิดให้บริการแก่ชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยในบางส่วนแล้ว โดยในปัจจุบันมีผู้ใช้งานผ่านระบบดังกล่าวแล้วมากกว่า 40,000 คน
ทั้งนี้ กรมการกงสุล จะร่วมกับสำนักงาน ก.พ.ร. และ สพร. ในการพัฒนางานบริการ e-Service ตามปฏิทินและแผนการดำเนินงานตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. กำหนด เพื่อให้บริการต่าง ๆ สามารถให้บริการได้โดยเร็ว ตามกรอบเวลาในแผนการดำเนินงานข้างต้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถเชื่อมโยงงานบริการการจองคิวและการกรอกข้อมูลเบื้องต้นในการยื่นขอทำหนังสือเดินทาง Online เข้ากับระบบ Citizen Portal ผ่าน Application ทางรัฐ ได้ในเดือนมีนาคม 2564 เนื่องจากกรมมีความพร้อมในด้านระบบการให้บริการอยู่แล้ว ซึ่งการเชื่อมต่อบริการดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มช่องทางการรับบริการให้แก่ประชาชน ทำให้ประชาชนได้รับบริการที่ง่าย สะดวก และรวดเร็วขึ้นต่อไป