โยงระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ ระหว่างสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) โดยมีเลขาธิการ ก.พ.ร. (นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ) ร่วมลงนาม
รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมความร่วมมือของ 7 หน่วยงานในการเป็นหน่วยงานนำร่องเพื่อพัฒนาระบบงานสารบรรณที่สามารถเชื่อมโยงการทำงานระหว่างหน่วยงานของรัฐ และสอดคล้องกับนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้ทุกส่วนราชการเร่งรัดให้เกิดรัฐบาลดิจิทัลโดยเร็ว ความร่วมมือระหว่าง 7 หน่วยงานนี้ จะทำให้ 7 หน่วยงานดังกล่าวเป็นต้นแบบการนำระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในงานสารบรรณภาครัฐ
นอกจากนี้ ในช่วงเช้ามีการเสวนาในหัวข้อ “ประสบการณ์ บทเรียน ข้อเสนอแนะในการทำ Digital Transformation ภาครัฐ” โดยมีผู้แทนจากสำนักงาน ก.พ.ร. (นางสาววิริยา เนตรน้อย) ผู้แทนจาก ก.ล.ต. ( ดร. ไกรพิชิต เรืองศรีไชยะ) ผู้แทนจาก สพร. (ดร.อาศิส อัญญะโพธิ์) และผู้แทนจาก สพธอ. ( นางสาวขนิษฐ์ ผาทอง) ในการเสวนาผู้แทนแต่ละหน่วยงานได้กล่าวถึงการขับเคลื่อน Digital Transformation ในส่วนราชการ ซึ่งการขับเคลื่อน Digital Transformation มีประเด็นที่ควรตระหนักถึง ได้แก่ 1) ควรคิดใหญ่ แต่การพัฒนาให้เริ่มต้นที่งานเล็ก ๆ และมีความสำคัญสูง 2) ควรนำ Platform ของรัฐที่มีการพัฒนาอยู่แล้วมาใช้ ซึ่งจะลดค่าใช้จ่ายในการพัฒนา 3) การปรับเปลี่ยน Mindset ของเจ้าหน้าที่ ความรู้ด้านดิจิทัล กฎระเบียบ และต้องมีการประเมินความคุ้มค่าของการพัฒนาเป็นระบบดิจิทัล 4) แนวทางการดำเนินการในการทำ Digital Transformation อาจใช้การทำงานร่วมกับภาคเอกชน และการใช้ทรัพยากรร่วมกันระหว่างหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความสำเร็จในการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล และสามารถเปลี่ยนแปลงมุมมองที่ประชาชนมีต่อภาครัฐว่ามีการทำงานที่ช้า ยุ่งยาก และเรื่องมาก ได้ หลังจากการลงนามในบันทึกข้อตกลงฯ หน่วยงานนำร่องทั้ง 7 หน่วยงานจะร่วมกันปรับปรุงแนวทางการดำเนินการให้เกิดระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564 และนำไปสู่การแก้ไขระเบียบสารบรรณต่อไป เพื่อให้ทุกหน่วยงานเห็นความสำคัญ และจำเป็น เข้ามาร่วมเป็นหน่วยงานที่นำระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ไปใช้ และส่งผลต่อการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล
