โดยมีรองเลขาธิการ ก.พ.ร. (นางนันทนา ธรรมสโรช) เป็นประธานในการชี้แจงวัตถุประสงค์ของโครงการฯ และกล่าวขอบคุณผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าร่วมรับฟัง ซึ่งทางสำนักงาน ก.พ.ร. มีความประสงค์อยากได้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อผลการศึกษาในวันนี้ไปประกอบให้รายงานการศึกษามีความสมบูรณ์ และนำไปสู่การปฏิบัติที่เกิดขึ้นได้จริงต่อไป
การนำเสนอผลการศึกษาโครงการ Smart Farmer สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
– วัตถุประสงค์ของโครงการ เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารจัดการของส่วนราชการที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนนโยบาย “เกษตรอัจฉริยะ” ด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้อย่างคุ้มค่า เพื่อนำไปสู่การปรับบทบาทภารกิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการบูรณาการการทำงานร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม
– ในการศึกษาได้คัดเลือกข้าวหอมมะลิเป็นพืชต้นแบบ ตั้งแต่ระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยได้ดำเนินการลงพื้นที่เข้าสัมภาษณ์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับฟังความคิดเห็นทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อนำมาพัฒนาเป็นร่าง Thai Model พร้อมทั้งจัดทำเป็นข้อเสนอการปรับบทบาท ภารกิจ โครงสร้าง และระบบการบริหารงาน (Transformation Plan) ที่เป็น Quick win ของส่วนราชการเป้าหมาย ตาม 6 ปัจจัยความสำเร็จของประเทศต้นแบบด้านเกษตรอัจฉริยะ (อิสราเอล ญี่ปุ่น ไต้หวัน) ได้แก่
1) นโยบายและยุทธศาสตร์ : พัฒนาศักยภาพด้านเทคโนโลยีให้เกษตรกรไทยเพื่อให้เกิดการพึ่งพาตนเองได้
2) กลไกและการมีส่วนร่วมทั้งจากภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคการศึกษา : แนวร่วมเกษตรอัจฉริยะเพื่อลดการพึ่งพิงภาครัฐ
3) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ : เสริมสร้างความเป็นผู้ประกอบการให้เกษตรกร
4) เทคโนโลยีและนวัตกรรม : ใช้ปัจจัยการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ
5) การส่งเสริมทางการตลาดและผลิตภัณฑ์ : สร้างเครือข่ายแบ่งปันอุปกรณ์การเกษตรรัฐ-เอกชน
6) การรักษาและพัฒนามาตรฐานสินค้า : บรรเทาภาระต้นทุนจากการปฏิบัติตามมาตรฐานของประเทศผู้นำเข้า
– ที่ประชุมได้ร่วมเสนอข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อสังเกต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อน Transformation Plan ไปสู่การปฏิบัติได้จริง เช่น
– การกำหนด Joint KPI เพื่อให้เกิดผลจริงในทางปฏิบัติ ต้องเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับการจัดสรรงบประมาณ และควรเป็นการจัดสรรงบประมาณที่ต่อเนื่อง 2-3 ปี ไม่ใช่การตั้งของบประมาณรายปี เพื่อให้เหมาะสมกับการดำเนินโครงการที่ต้องมีการใช้จ่ายระยะยาว
– การกำหนดเป้าหมายของแผน ต้องเป็นรูปธรรมมากกว่านี้ เช่น การระบุจำนวนที่วัดผลได้ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นเป้าหมายที่ต้องการในแต่ละระยะชัดเจน และเป็นเป้าหมายเดียวกัน
– ควรนำ Model นี้ pilot การบูรณาการในพื้นที่ก่อน โดยยังไม่ต้องปรับโครงสร้างภาพใหญ่ ถ้าได้ผลดีจึงขยายผล
– การจัดการเพาะปลูก 1 zoning 1 การรับรองมาตรฐาน เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่เกษตรกร 1 รายต้องขอหลายใบรับรองมาตรฐานในการส่งออกเป็นสิ่งที่ดีแต่อาจไม่เหมาะสมกับบริบทประเทศไทย เสนอแนะให้ scope ให้เล็กลงเป็น 1 กลุ่มเกษตรกร 1 การรับรองมาตรฐาน จะง่ายต่อการบริหารจัดการและมีโอกาสสำเร็จมากกว่า
– ในบางภารกิจ รัฐอาจไม่จำเป็นต้องทำเอง และมีเอกชนที่ทำได้ดีอยู่แล้ว เช่น การพัฒนา E-commerce platform ปัจจุบันมี platform ของเอกชนที่ดีอยู่แล้ว ภาครัฐไม่จำเป็นต้องมาพัฒนาเอง แต่รัฐจะต้องส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จาก platform เหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ประเด็นข้อสังเกตข้อเสนอแนะ สำนักงาน ก.พ.ร. จะได้นำไปปรับปรุงข้อเสนอ Transformation Plan ให้สมบูรณ์และนำไปปฏิบัติได้จริง
และจากผลการศึกษานี้ สำนักงาน ก.พ.ร. จะนำไปประกอบในการวิเคราะห์การปรับบทบาทภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนนโยบายเกษตรอัจฉริยะ รวมทั้ง ขับเคลื่อนข้อเสนออื่นๆ ใน Transformation Plan เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติต่อไป
กลุ่มงานการประชาสัมพันธ์ / จัดทำ