ข่าวสาร ก.พ.ร.

การลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย ถอดบทเรียน และประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่

12 พ.ค. 2566
0
การลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย ถอดบทเรียน และประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 สำนักงาน ก.พ.ร. นำโดยประธาน อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการส่งเสริมบริหารภาครัฐระบบเปิดและการมีส่วนร่วม (นายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์) รองเลขาธิการ ก.พ.ร. (นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข) ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์มหาชน) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มูลนิธิธรรมรัฐเพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)

ในช่วงเช้า ลงพื้นที่ปฏิบัติการ ณ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อศึกษาและรับฟังปัญหา พูดคุยกับหน่วยงานและชาวบ้านในพื้นที่ เกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ในพื้นที่ป่า รวมทั้งระดมความคิดเห็นในการหาแนวทางการบริหารจัดการ การสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน การปลดล็อกประเด็นปัญหาสำคัญ การทำงานข้ามหน่วยงาน และข้ามพื้นที่ โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหา PM 2.5 ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย ภายใต้ พรบ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 64 และ 65

ในช่วงบ่าย การประชุมถอดบทเรียนและประชุมเชิงปฏิบัติการในการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ประกอบด้วย หน่วยงานภาคีเครือข่ายและหน่วยงานในพื้นที่ จำนวนทั้งสิ้น 23 หน่วยงาน เช่น สำนักงานงบประมาณ เขตที่ 10 สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคเหนือ สถิติจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานจังหวัดสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เกษตรและสหกรณ์จังหวัด พลังงานจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

1) การจัดทำระบบฐานข้อมูล (Geo-Informatic database) เพื่อการเปิดเผย ป้องกัน และแก้ไขปัญหา PM 2.5 ร่วมกัน โดยเชื่อมโยงฐานข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อการวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาและแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง ตรงจุด

2) การบริหารจัดการไฟ ประกอบด้วย ไฟที่มีการบริหารจัดการ ไฟที่ไม่มีการบริหารจัดการ การมีส่วนร่วมจากชุมชน/ประชาชน ระบบการบริหารจัดการเชื้อเพลิง

3) การแก้ไขปัญหาไฟในพื้นที่การเกษตร โดยการปรับเปลี่ยนพื้นที่เกษตร และมีกลไกตลาดรองรับ โดยมีการสนับสนุนงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

4) การจัดทำตัวชี้วัดระดับจังหวัดและพื้นที่ เช่น จำนวนฐานข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยเพื่อการแก้ไขปัญหา PM 2.5 จำนวนวันที่มีฝุ่นละออง PM 2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐาน ในช่วงเดือนมกราคม ถึง เมษายน ลดลง สัดส่วนพื้นที่ที่มีการลักลอบเผาเทียบกับพื้นที่ที่มีการเผาอย่างถูกต้อง สัดส่วนของพื้นที่การเกษตรที่ไม่มีการเผาเทียบกับสัดส่วนพื้นที่การเกษตรทั้งหมด สัดส่วนของพื้นที่เผาไหม้ซ้ำซากลดลง จำนวนครั้งการเข้ารับบริการในแผนกฉุกเฉินด้วย จำนวนโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังชนิดเฉียบพลัน ในช่วงการเฝ้าระวังสถานการณ์มลพิษทางอากาศของแต่ละพื้นที่ (มกราคม – เมษายน) ลดลง สัดส่วนพื้นที่การเกษตรที่เปลี่ยนจากแปลงที่เผาเป็นแปลงที่ไม่เผาเพิ่มขึ้น ร้อยละของชุมชนที่เข้ามามีส่วนร่วมในระบบการบริหารจัดการไฟ (FireD) เพิ่มขึ้น จำนวน (ตัน) ที่เพิ่มขึ้นของการนำเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาเพิ่มมูลค่าและลดการเผา

NEXT STEP : การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา PM 2.5 ในพื้นที่ปฏิบัติการ ในลักษณะ “Government Innovation Lab” เพื่อสร้างความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหา PM 2.5 และขยายผลไปยังพื้นที่อื่นต่อไป

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้กกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สำนักงาน ก.พ.ร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ ก.พ.ร. ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ ก.พ.ร. ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ ก.พ.ร. ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ ก.พ.ร. ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า