นายไมตรี อินทุสุต เป็นประธาน พร้อมด้วยนางสาวสุรุ่งลักษณ์ เมฆะอำนวยชัย รองเลขาธิการ ก.พ.ร. ในฐานะรองประธาน เพื่อพิจารณารูปแบบการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารราชการในจังหวัดที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ตามแผนการปฏิรูปประเทศ ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน (จังหวัดพันธุ์ใหม่) สรุปผลการประชุม ดังนี้
1. เห็นชอบรูปแบบการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารราชการจังหวัดฯ ดังนี้
1) ด้านระบบงาน ให้ใช้กลไกคณะกรมการจังหวัด เพื่อพิจารณาเรื่องสำคัญหรือแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของพื้นที่ ให้พัฒนาระบบฐานข้อมูลที่สนับสนุนการจัดทำแผนยุทธศาสตร์จังหวัดของกระทรวงมหาดไทยที่มีอยู่แล้วให้เป็นปัจจุบัน และยกระดับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอให้เป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ
2) ด้านระบบแผนและงบประมาณ ให้นำแนวทางตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การทำแผนและประสานแผนพัฒนาพื้นที่ในระดับอำเภอและตำบล (One Plan) มาขับเคลื่อน มอบอำนาจให้จังหวัดในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงโครงการตามแผนจังหวัดแทนส่วนกลาง รวมทั้งให้มีการปรับกรอบวงเงินของกระทรวง กรมมาให้จังหวัดบางส่วน เพื่อให้จังหวัดเสนอโครงการที่เป็นความต้องการของพื้นที่
3) ด้านระบบบริหารงานบุคคล ให้มีการกำหนดคุณสมบัติของผู้ว่าราชการจังหวัดให้มีความสอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ กำหนดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างน้อย 2 ปี และขอความร่วมมือให้หัวหน้าส่วนราชการของหน่วยงานส่วนกลางในภูมิภาค มอบอำนาจการบริหารงานบุคคลให้ผู้ว่าราชการจังหวัด
2. เห็นชอบแผนการทดลองดำเนินงานรูปแบบการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารราชการจังหวัดฯ ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี โดยคัดเลือกประเด็นที่จะดำเนินการทดลองที่เห็นผลได้เร็ว และมีผลกระทบต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของจังหวัด ใน 4 เรื่อง ประกอบด้วย
1) เรื่องยกระดับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเป็นศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ
2) เรื่องการมอบอำนาจให้จังหวัดในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงโครงการตามแผนจังหวัดแทนส่วนกลาง
3) เรื่องการจัดทำงบประมาณสมทบระหว่าง อปท.และจังหวัด (Matching Fund) และ
4) การเลือกเรื่องสำคัญตามยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท แผนพัฒนาจังหวัด มาขับเคลื่อนในเชิงบูรณาการ โดยผ่านการกำหนดตัวชี้วัดร่วม
ทั้งนี้ ในการดำเนินการทั้ง 4 เรื่อง สำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะจัดทำแผนการดำเนินงานลงพื้นที่ ในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2563
3. เห็นชอบแผนเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนจังหวัดนำร่อง (6 จังหวัด) โดยมีแนวทางดังนี้
1) การคัดเลือกจังหวัดนำร่อง ควรคัดเลือกจากยุทธศาสตร์สำคัญของจังหวัด เช่น จังหวัดที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ จังหวัดชายแดน จังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง เป็นต้น โดยอาจดูคุณสมบัติของผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นองค์ประกอบเพิ่มเติม หรือให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาคัดเลือกตามความเหมาะสม
2) สำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยร่วมกันในการนำรูปแบบการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารราชการจังหวัดฯ ไปทดลองในจังหวัดนำร่อง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องทำข้อเสนอการบริหารงานจังหวัดที่มีผลสัมฤทธิ์ โดยมีเนื้อหา ประกอบด้วย รายละเอียดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายที่ท้าทายจับต้องได้ ที่จะดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย ในระยะเวลา 2 ปี และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเพิ่มขึ้นจากการดำเนินการ
3) กำหนดให้ อ.ก.พ.ร.ภูมิภาค คณะกรรมการปฏิรูปประเทศฯ และคณะกรรมาธิการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา เป็นกลไกสนับสนุนการดำเนินงานให้แก่จังหวัดนำร่อง
4) กำหนดมาตรการจูงใจให้แก่จังหวัดนำร่อง เช่น การสนับสนุนงบประมาณเพื่อพัฒนาบุคลากรของจังหวัด หรือการเพิ่มโควตาการเลื่อนเงินเดือนให้เป็นกรณีพิเศษ
ผลการประชุมในครั้งนี้ จะได้นำเสนอ ก.พ.ร. เพื่อทราบ และแจ้งให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาดำเนินการต่อไป ตามที่กำหนดไว้ใน แผนการปฏิรูปประเด็นด้านการบริหารราชการแผ่นดิน