ข่าวสาร ก.พ.ร.

ข้าราชการหน่วยงาน Ministry of Public Work and Transport สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มาศึกษาดูงานและรับฟังการบรรยายสรุปด้านการบริหารราชการแผ่นดิน การจัดการภาครัฐแนวใหม่ ณ สำนักงาน ก.พ.ร.

26 ก.ย. 2562
0


เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2562 สำนักงาน ก.พ.ร. ได้รับเกียรติจากข้าราชการหน่วยงาน Ministry of Public Work and Transport สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่เข้าร่วมอบรมหลักสูตร “Strategic Human Resource Development for Public Work and Transportation Sector” ของสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) มาศึกษาดูงานและรับฟังการบรรยายสรุปด้านการบริหารราชการแผ่นดิน การจัดการภาครัฐแนวใหม่ โดยมีนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร. ให้การต้อนรับ และนายจิรวัฒน์ ระโหฐาน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการพัฒนาระบบราชการ ดำเนินการบรรยายสรุป ณ ห้องประชุมฝ่ายบริหาร ชั้น 4 สำนักงาน ก.พ.ร.

คณะศึกษาดูงานที่มาแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในครั้งนี้เป็นข้าราชการระดับกลางและระดับสูงที่รับผิดชอบงานด้านการพัฒนาบุคลากร และการขนส่งจาก Ministry of Public Work and Transport สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จำนวน 15 คน ซึ่งได้ให้ความสนใจในด้านการให้บริการภาครัฐ และมีความประสงค์ที่จะขอเข้าฟังความรู้ความเข้าใจในแนวทางการพัฒนาประเทศไทย การปฏิรูประบบราชการ แนวคิดเกี่ยวกับการบริหารภาครัฐแนวใหม่ และสามารถนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาดูงานไปประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการภาครัฐของ สปป.ลาว ต่อไป

โดยสำนักงาน ก.พ.ร. เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ผู้เข้าร่วมโครงการได้มาศึกษาดูงานและร่วมแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของสำนักงาน ก.พ.ร. และประสบการณ์เกี่ยวกับการปฏิรูประบบราชการ และการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ ซึ่งนายจิรวัฒน์ ระโหฐาน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการพัฒนาระบบราชการ ได้บรรยายเกี่ยวกับระบบราชการไทยกับการปฏิรูป นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 ซึ่งได้มีการตราพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 ขึ้น รวมถึงพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ที่ได้นำหลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี การบริหารราชการแนวใหม่ และการตราพระราชบัญญัติอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 เพื่อยกระดับคุณภาพงานบริการภาครัฐ ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารราชการเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญฯ ยังได้กล่าวถึง ยุทธศาสตร์ในการปฏิรูประบบราชการ ตลอดจนแนวคิดและกระบวนการในการปฏิรูประบบราชการไทย รวมทั้งผลงานการพัฒนาระบบราชการไทยที่สำคัญในช่วงที่ผ่านมา และทิศทางการดำเนินงานของสำนักงาน ก.พ.ร. ที่สอดคล้องแผนการพัฒนาภายใต้ยุทธศาสตร์ประเทศ (Country Strategy) การประเมินผลการปฏิบัติราชการในรูปแบบที่สอดคล้องกับลักษณะการปฏิบัติราชการ รวมถึงการประเมินผลการปฏิบัติราชการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ (Joint KPIs) โดยในช่วงท้ายของการบรรยาย ผู้เชี่ยวชาญฯ ได้สรุปประเด็นสำคัญที่จะส่งผลให้การปฏิรูประบบราชการบรรลุวัตถุประสงค์และก่อเกิดประสิทธิภาพ ซึ่งประเด็นสำคัญดังกล่าวประกอบด้วย 1) นโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการปฏิรูประบบราชการ 2) วิสัยทัศน์ขององค์กรและผู้บริหารของหน่วยงานที่รับผิดชอบ 3) ข้อกฎหมายที่เอื้ออำนวยต่อการให้บริการประชาชน ซึ่งประเทศไทยมีพระราชกฤษฎีกาการทบทวนความเหมาะสมของกฎหมาย พ.ศ. 2558 ที่ทุกส่วนราชการต้องทบทวนข้อกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการประชาชน และ 4) บทบาทหน้าที่ของสำนักงาน ก.พ.ร. ที่จะทำหน้าที่ส่งเสริมผลักดันให้ทุกส่วนราชการดำเนินการได้อย่างบรรลุวัตถุประสงค์ในการปฏิรูประบบราชการ ทั้งนี้ เพื่อตอบคำถามว่าการดำเนินการของสำนักงาน ก.พ.ร. นั้น ส่งผลต่อประชาชน และประเทศชาติอย่างไร

กลุ่มงานเลขานุการ ก.พ.ร. และการประชาสัมพันธ์ / จัดทำ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้กกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สำนักงาน ก.พ.ร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ ก.พ.ร. ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ ก.พ.ร. ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ ก.พ.ร. ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ ก.พ.ร. ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า