ข่าวสาร ก.พ.ร.

สำนักงาน ก.พ.ร. จัดประชุมสัมมนา เรื่อง แนวทางการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

24 ม.ค. 2566
0
สำนักงาน ก.พ.ร. จัดประชุมสัมมนา เรื่อง แนวทางการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 สำนักงาน ก.พ.ร. ได้จัดประชุมสัมมนา เรื่อง แนวทางการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

การประชุมแนวทางการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เวลา 13.30 – 16.00 น. ณ โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพ โดยมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ประธาน ค.ต.ป. กล่าวเปิดการประชุม และมอบนโยบายเกี่ยวกับการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จากนั้นเป็นการเสวนาประเด็นการตรวจสอบและประเมินผลตามห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) โดยประธาน อ.ค.ต.ป. กลุ่มกระทรวง คณะที่ 1-7 และ อ.ค.ต.ป. กลุ่มจังหวัด ซึ่งมีเลขาธิการ ก.พ.ร. (นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ) เป็นผู้ดำเนินรายการ มีประเด็นเสวนา ดังนี้

  1. การบริหารจัดการสินทรัพย์จากงบประมาณในจังหวัดและกลุ่มจังหวัด (ศาสตราจารย์กิตติคุณบวรศักดิ์ อุวรรณโณ)
  2. การบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ (นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา)
  3. การช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในภาวะวิกฤตให้เข้าถึงบริการภาครัฐเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ (นางสาววลัยรัตน์ ศรีอรุณ (นำเสนอโดยนางสาวจิราภรณ์ ตันติวงศ์ อนุกรรมการฯ))
  4. การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน (รองศาสตราจารย์วรากรณ์ สามโกเศศ)
  5. การสร้างระบบนิเวศเพื่อขับเคลื่อนการเป็นรัฐบาลดิจิทัล (นายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์)
  6. การเพิ่มโอกาสของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กและเศรษฐกิจฐานราก (นายประสัณห์ เชื้อพานิช)
  7. การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ (นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร)
  8. การเสริมสร้างผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีมีความมั่นคงในชีวิต (นายมนัส แจ่มเวหา)

ทั้งนี้ ช่วงเช้าเวลา 9.00 – 12.00 น.ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประเด็นการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ฝ่ายเลขานุการ ค.ต.ป. ประจำกระทรวง และ ฝ่ายเลขานุการ อ.ค.ต.ป. คณะต่าง ๆ เพื่อรับทราบถึงประเด็นปัญหา อุปสรรค และความคาดหวังของฝ่ายเลขานุการฯ เพื่อปรับปรุงการบูรณาการการตรวจสอบ และพัฒนาการตรวจติดตามให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

  1. ควรปรับระยะเวลาการเเจ้งกรอบแนวทางการตรวจสอบที่รวดเร็วขึ้น พร้อมทั้งควรมีประเด็นและแบบฟอร์มที่ชัดเจนขึ้น เพื่อให้ได้ข้อมูลจากการรายงานที่สอดคล้องกันทั้งในเชิงเนื้อหาและระยะเวลา
  2. การหมุนเวียนเจ้าหน้าที่และภาระงานส่งผลให้ขาดความต่อเนื่องในการติดตามตรวจสอบ ซึ่งจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management: KM) ระหว่างฝ่ายเลขานุการ ค.ต.ป. ประจำกระทรวง และ อ.ค.ต.ป. เเต่ละคณะ
  3. การบูรณาการระหว่าง อ.ค.ต.ป. แต่ละคณะ และ ค.ต.ป. ประจำกระทรวง ทั้งในเชิงวิธีการเเละเชิงสาระ เพื่อให้เกิดการบูรณาการการตรวจติดตามแบบเป็นองค์รวม
  4. การสร้างความรับรู้ถึงความสำคัญและผลสัมฤทธิ์ในการตรวจสอบและข้อเสนอแนะของ ค.ต.ป. เพื่อให้ผู้บริหารเล็งเห็นถึงความสำคัญ และนำผลการตรวจสอบไปใช้ประโยชน์ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
  5. การแชร์ข้อมูลกลางสำหรับ ค.ต.ป. เช่น ฐานข้อมูลกลาง ค.ต.ป. ประจำกระทรวง และ อ.ค.ต.ป. แต่ละคณะ เพื่อให้สามารถนำไปใช้ประกอบการตรวจสอบร่วมกันได้

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้กกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สำนักงาน ก.พ.ร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ ก.พ.ร. ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ ก.พ.ร. ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ ก.พ.ร. ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ ก.พ.ร. ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ ก.พ.ร. แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า